เข้าใจอาการหลังคลอดและซึมเศร้าหลังคลอด: สิ่งที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้
ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด โรคซึมเศร้าหลังคลอด และภาวะวิตกกังวลหลังคลอด เป็นเรื่องปกติและสามารถรักษาได้ – คุณไม่ได้เจอเรื่องอย่างนี้อยู่คนเดียว
การนำพาชีวิตใหม่มาสู่โลกเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ แต่ถึงแม้การคลอดลูกจะเป็นช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์อย่างยิ่ง คุณแม่มือใหม่บางคนก็ต้องเผชิญกับความท้าทายทางอารมณ์ที่ไม่คาดคิดหลังคลอด
เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงหลังคลอดจะรู้สึกซึมเศร้าหลังคลอด อย่างไรก็ตาม การซึมเศร้านี้มีตั้งแต่ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอดที่ไม่รุนแรงนัก (baby blues) ไปจนถึงโรคซึมเศร้าหลังคลอดที่รุนแรง (postpartum depression)
ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด (Baby blues)
- เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงหลังคลอดมากถึง 80%
- จะเริ่มมีอาการภายในสองสามวันแรกหลังคลอด
- อาการต่างๆ ได้แก่ อารมณ์แปรปรวน ร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุเป็นพักๆ หงุดหงิด รู้สึกหนักใจท่วมท้น และเหนื่อยล้า
- โดยทั่วไปอาการจะคงอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์
โรคซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum Depression - PPD)
- เกิดขึ้นกับผู้หญิงหลังคลอดประมาณ 1 ใน 7 คน
- อาการจะคงอยู่นานกว่า 2 สัปดาห์ และอาจเริ่มขึ้นหลังคลอดไปแล้วหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
- อาการต่างๆ ได้แก่:
- ความเศร้าหรือความรู้สึกว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง
- เลิกสนใจหรือไม่เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ
- รู้สึกยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทารก
- รู้สึกผิด ไร้ค่า หรือสิ้นหวัง
- รู้สึกเหนื่อยล้าหรือไร้เรี่ยวแรงพลังงาน
- ความอยากอาหารหรือการนอนหลับเปลี่ยนแปลง
- มีความคิดที่จะทำร้ายตนเองหรือทารก (ในกรณีที่รุนแรง)
ภาวะวิตกกังวลหลังคลอด (Postpartum Anxiety - PPA)
- อาจเกิดขึ้นพร้อมกับโรคซึมเศร้าหลังคลอดหรืออาจเกิดแต่ภาวะวิตกกังวลก็ได้
- อาการต่างๆ ได้แก่:
- ความกังวลหรือความกลัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสุขภาพของทารก
- ความคิดฟุ้งซ่านวุ่นวายหรือไม่มีสมาธิ
- อาการตื่นตระหนก (หายใจถี่ เจ็บหน้าอก วิงเวียนศีรษะ)
- การนอนหลับผิดปกติโดยไม่ได้เป็นเพราะต้องดูแลความต้องการของทารก
- อาการทางร่างกาย เช่น คลื่นไส้ หรือกระสับกระส่าย
สาเหตุของภาวะเหล่านี้
หลายปัจจัยมีส่วนที่ทำให้เกิดภาวะเหล่านี้ ได้แก่:
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนลดลงหลังคลอด
- การอดนอน
- ความเครียดทางอารมณ์จากการปรับตัวเข้ากับอัตลักษณ์ตัวตนใหม่และความรับผิดชอบใหม่ๆ
- ประวัติสุขภาพจิตก่อนหน้า (ซึมเศร้า วิตกกังวล)
- ขาดการสนับสนุนกำลังใจจากคู่ครองหรือครอบครัว
- ประสบการณ์การคลอดหรือภาวะแทรกซ้อนที่กระทบกระเทือนจิตใจ
- การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่ได้วางแผนไว้
- รู้สึกสูญเสียอัตลักษณ์ตัวตน
การรักษา
ข่าวดีก็คือ ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด โรคซึมเศร้าหลังคลอด และภาวะวิตกกังวลสามารถรักษาให้หายได้ วิธีการรักษามีดังนี้:
การบำบัด
- การบำบัดความคิดและพฤติกรรม (CBT) และการบำบัดสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (IPT) มีหลักฐานเชิงประจักษ์และได้ผลดี
- การพูดคุยกับนักบำบัดสามารถช่วยให้จัดการกับอารมณ์และสร้างวิธีการที่จะใช้รับมือได้
- ในบางกรณี จำเป็นที่จะต้องใช้การปรึกษาปัญหาชีวิตสมรสหรือการบำบัดครอบครัวแบบอื่นๆ ด้วย
การใช้ยา
- ยาต้านอาการซึมเศร้าและยาคลายความวิตกกังวลมักปลอดภัยในระหว่างให้นมบุตร
- ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง
กลุ่มสนับสนุน
- การพูดคุยกับคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมีประสบการณ์อย่างเดียวกันอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
แนวทางการดูแลตนเอง
- ให้ความสำคัญกับการนอนหลับเป็นอย่างแรก เมื่อเป็นไปได้
- รับประทานอาหารเป็นมื้อๆ ที่สมดุลและดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน
- ครอบครัวและเพื่อนฝูงสามารถสนับสนุนให้กำลังใจได้
อาการเหล่านี้จะคงอยู่นานแค่ไหน
- ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด: โดยทั่วไปจะอยู่นานได้ถึง 2 สัปดาห์
- โรคซึมเศร้า/ภาวะวิตกกังวลหลังคลอด: ในระยะแรก อาการอาจเริ่มเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในช่วงปีแรก อาจเป็นอยู่หลายเดือน และนานถึงหนึ่งปีหากไม่ได้รับการรักษา
- ถ้าได้รับการรักษา ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นภายใน 2-4 เดือน
คำแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่มีโรคซึมเศร้าหลังคลอด
หากคุณเพิ่งคลอดบุตรและรู้สึกว่าตนเองมีโรคซึมเศร้าหลังคลอด ต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญที่คุณสามารถทำได้:
- สังเกตอารมณ์ของตนเองทุกวัน เขียนบันทึกประจำวัน หรือแบ่งปันความรู้สึกของคุณกับคนที่ไว้ใจได้
- อย่าเพิกเฉยต่อความเศร้าหรือความกังวลที่มีต่อเนื่อง หากอาการยังคงอยู่เกินสองสัปดาห์ ควรขอความช่วยเหลือ
- นัดหมายตรวจสุขภาพหลังคลอดและปรึกษาแพทย์เรื่องที่มีข้อกังวลทางอารมณ์
- ยอมรับความช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนฝูง นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการรับ ไม่ใช่แค่การให้
- ฝึกเห็นอกเห็นใจตนเอง การเป็นแม่นั้นเป็นเรื่องยาก เรียกร้องต้องการจากคนเป็นแม่มาก อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการแยกตัวออกมาอยู่โดดเดี่ยว ติดต่อกับคุณแม่ท่านอื่นๆ บ้างไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือผ่านกลุ่มคุณแม่ที่อยู่ใกล้เคียง
เมื่อไหร่ควรขอความช่วยเหลือ
หากเคยคิดจะทำร้ายตัวเองหรือลูกน้อย หรือรู้สึกท้อแท้รับมือไม่ไหวโดยสิ้นเชิงและหมดหวัง ให้รีบขอความช่วยเหลือทันที โทรสายด่วนฉุกเฉิน พูดคุยกับคนที่คุณรัก ปรึกษาแพทย์ หรือไปที่ห้องฉุกเฉิน
ข้อคิดทิ้งท้าย
ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด โรคซึมเศร้าหลังคลอด และภาวะวิตกกังวลหลังคลอด ไม่ได้สะท้อนถึงความเข้มแข็ง ความรัก หรือคุณค่าของคุณในฐานะแม่ – ทั้งหมดนี้เป็นภาวะที่เกิดขึ้นจริงและพบได้บ่อย - และสามารถรักษาได้ สิ่งสำคัญที่มีประโยชน์ที่สุดที่คุณสามารถทำได้คือการขอความช่วยเหลือและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ การสนับสนุนและกำลังใจที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถก้าวข้ามเอาชนะภาวะเหล่านี้ได้
เรียบเรียงโดย ศูนย์สุขภาพจิตบำรุงราษฎร์
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 18 กันยายน 2568