การวินิจฉัยและการรักษามะเร็งเต้านม พร้อมคำแนะนำในการดูแลสุขภาพ
ในครั้งก่อนเราได้พูดถึง ปัจจัยเสี่ยงและอาการของมะเร็งเต้านม ไปแล้ว สำหรับครั้งนี้จะมาต่อกันในเรื่อง การวินิจฉัย การรักษา รวมถึงแนวทางการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันมะเร็งเต้านม โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ
การวินิจฉัยมะเร็งเต้านม (Triple Assessment)
การตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านมจะต้องทำครบ 3 ขั้นตอนหลัก หรือที่เรียกว่า Triple Assessment ได้แก่
- การซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์
- การตรวจภาพถ่าย (Imaging) เช่น อัลตราซาวนด์ และแมมโมแกรม
- การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy) ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น
- ใช้เข็มเล็กดูดเซลล์ออกมาตรวจ
- การผ่าตัดนำชิ้นเนื้อออกมาตรวจ
การทำทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ครบถ้วน จะช่วยยืนยันการวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ
วิธีการรักษามะเร็งเต้านม
ปัจจุบัน การรักษามะเร็งเต้านมมีทั้งหมด 6 วิธีหลัก ได้แก่:
- การผ่าตัด
- การให้ยาเคมีบำบัด
- การฉายรังสี
- การให้ยาต้านฮอร์โมน
- การให้ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy)
- การให้ยากลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
ลำดับการรักษา
- มะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรก มักเริ่มต้นด้วยการผ่าตัด
- มะเร็งเต้านมก้อนใหญ่ (มากกว่า 5 ซม.) หรือมีการกระจายไปต่อมน้ำเหลือง รวมถึงชนิดย่อยบางประเภท เช่น Triple Negative หรือ HER2 Positive แพทย์จะแนะนำให้ทำเคมีบำบัดก่อนการผ่าตัด เพื่อผลการรักษาที่ดีกว่า
คำแนะนำในการป้องกันมะเร็งเต้านม
- ตรวจสุขภาพและคัดกรอง (Screening) แนะนำให้เริ่มตรวจแมมโมแกรมตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป หากตรวจพบเร็วและรักษาเร็ว โอกาสหายสูงมาก
- ลดปัจจัยเสี่ยง หลีกเลี่ยงการฉีดฮอร์โมนหรือการใช้ฮอร์โมนโดยไม่จำเป็น ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- การตรวจสุขภาพตามช่วงวัย ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์ ผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพเต้านมกับแพทย์เป็นประจำ แม้อาจยังไม่จำเป็นต้องทำแมมโมแกรม
สรุป
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิง การรู้จักวิธี ตรวจวินิจฉัย การรักษา และการป้องกัน จะช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม การตรวจเช็คสุขภาพอย่างสม่ำเสมอถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายขาด
สนับสนุนโดย นพ. ธีรภพ ไวประดับ
แพทย์ชำนาญการด้านศัลยศาสตร์เต้านม
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 10 กันยายน 2568