You're been inactive for a while. For security reason, we'll automatically sign you out from our website. Please Click "Login" to extend your session
ตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วย ผลการตรวจ กำหนดการนัด และอื่นๆ
ยังไม่มีบัญชี? Create Account
ติดตามข่าวสารล่าสุด และ นัดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกได้ทันที
มีบัญชีอยู่แล้ว? Log In
อาการนอนกรน
ค้นหาแพทย์
ติดต่อสอบถาม
นัดหมายแพทย์
การนอนกรนเกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนบนตีบแคบ กล่าวคือในขณะที่คนเรานอนหลับสนิทนั้น กล้ามเนื้อต่างๆ ในช่องปากจะผ่อนคลายและหย่อนลงมาปิดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านไปยังหลอดลมและปอดได้อย่างสะดวก ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และเนื่องจากช่องลมถูกปิดกั้นจนเล็กลงจึงทำให้เกิดเป็นเสียงกรนขึ้น
การนอนกรนเพียงอย่างเดียวอาจส่งผลต่อสุขภาพไม่มากนัก แต่เนื่องจากการนอนกรนมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) ซึ่งเป็นภาวะผิดปกติของการหายใจ คือมีอาการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะนอนหลับ การนอนกรนจึงทำให้คุณภาพการนอนไม่ดี การนอนหลับไม่ต่อเนื่อง และกลายเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เช่น ร่างกายอ่อนเพลีย สุขภาพจิตเสีย สมาธิและความจำไม่ดี การเผาผลาญอาหารของร่างกายด้อยประสิทธิภาพลง ทำให้เกิดโรคอ้วนและเบาหวานได้
นอกจากนี้ อันตรายที่เกิดจากการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับยังรวมไปถึงการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับสมองและหลอดเลือดหัวใจ อาทิ โรคความดันโลหิตสูง ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคของหลอดเลือดสมอง และยังอาจทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลงส่งผลให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้
อาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิดจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ได้แก่
ส่วนอาการร่วมอื่นๆ ได้แก่ ปัสสาวะกลางคืนบ่อยครั้ง รู้สึกไม่สดชื่นในตอนเช้าและพบว่ามีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ ง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวัน หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจทางห้องปฏิบัติการการนอน และหาแนวทางในการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
การตรวจวินิจฉัยการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับสามารถทำได้โดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการการนอน ซึ่งผู้เข้ารับการตรวจจำเป็นต้องนอนพักในโรงพยาบาล 1 คืน ทั้งนี้ การตรวจจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะเป็นการตรวจว่ามีการหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่และมากน้อยเพียงใด และช่วงที่สองเป็นช่วงของการบำบัดรักษาอาการ
สำหรับการตรวจในช่วงแรก เจ้าหน้าที่จะเริ่มจากการวัดขนาดศีรษะของผู้เข้ารับการตรวจเพื่อติดตั้งอุปกรณ์วัดคลื่นสมองสำหรับตรวจสอบการนอนระดับลึกโดยจะติดไว้บริเวณศรีษะ ใต้หางตา และหน้าอก ติดเครื่องตรวจสอบภาวะการหยุดหายใจขณะหลับที่จมูก ติดไมโครโฟนเพื่อวัดระดับความดังของเสียงกรนบริเวณคอ และติดอุปกรณ์วัดออกซิเจนในเลือดที่ปลายนิ้วเพื่อวัดระดับออกซิเจน ซึ่งสัญญานจากการทำงานของเครื่องมือต่างๆ นี้จะถูกส่งไปประมวลผลในห้องควบคุมและสังเกตอาการตลอดเวลา
ในกรณีที่ผู้เข้ารับการตรวจมีอาการนอนกรนดังผิดปกติหรือหยุดหายใจขณะหลับ เจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก (continuous positive airway pressure หรือ CPAP) ซึ่งเป็นหน้ากากติดครอบกับจมูกมาใส่ให้เพื่อเติมอากาศเข้าไปตลอดเวลา จึงเป็นการป้องกันไม่ให้ระบบทางเดินหายใจถูกปิดกั้น
ทั้งนี้ ในการใช้เครื่อง CPAP แพทย์จะต้องกำหนดค่าความดันที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล เพราะหากแรงดันมากเกินไปจะทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบากขณะนอนหลับ แต่หากความดันน้อยเกินไปอาจทำให้ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นจนร่างกายขาดออกซิเจนได้
การตรวจทางห้องปฏิบัติการการนอนนี้จะช่วยให้แพทย์ทราบประเภทการนอนกรนและความรุนแรงของโรคของผู้ป่วยได้ว่าอยู่ในภาวะนอนกรนธรรมดาที่ไม่มีการหยุดหายใจร่วมด้วย (primary snoring) หรือกรนอันตราย (obstructive sleep apnea) ที่มีภาวะหยุดหายใจขาดอากาศขณะนอนหลับร่วมด้วยเพื่อให้การรักษาที่ได้ผลดีกับผู้ป่วยมากที่สุด
การรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่
การรักษาที่เกี่ยวข้อง
แพทย์ที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์รักษาที่เกี่ยวข้อง
โทรเพื่อทำการนัดหมาย
อาการนอนกรนเป็นครั้งคราวพบได้ในคนทั่วไป ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาการนอนกรนพบได้ร้อยละ 30 ในผู้ชายและพบได้ประมาณร้อยละ 15 ในผู้หญิง ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจและอารมณ์
นอนกรน
ภาวะนอนกรนหยุดหายใจหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในหลายๆด้าน ในบางกรณีอาจเกิดจากโครงสร้างของกระดูกขากรรไกร รักษาได้ด้วยการผ่าตัดแก้ไข ซึ่งเป็นวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพและมีมานานกว่า 30 ปี
นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ
เด็กนอนกรน ปัญหาสุขภาพที่ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกต