ฟันน้ำนมที่แข็งแรงส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพและพัฒนาการที่แข็งแรงสมวัย ฟันน้ำนมช่วยในการบดเคี้ยวอาหารและช่วยในการหัดพูดและออกเสียง การที่เด็กฟันผุหรือสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนเวลาอันควร มีผลกระทบต่อเด็กในหลายๆด้าน

• ฟันผุ หากไม่ได้รับการรักษา เชื้อโรคจะลุกลามไปที่รากฟันทำให้เกิดหนอง  ทำให้เด็กรู้สึกเจ็บปวดและเป็นไข้ การติดเชื้ออาจกระจายไปยังอวัยวะใกล้เคียง รวมถึงแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดไปตามอวัยวะต่างๆจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
• อาการปวดฟันจากฟันผุทำให้เด็กไม่สามารถกัดหรือเคี้ยวอาหารได้เป็นปกติ ทำให้ความอยากอาหารลดลงหรือเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น ส่งผลให้ขาดขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการการเจริญเติบโตของร่างกาย
• อาการปวดฟัน ทำให้เด็กนอนหลับได้ไม่ดี ส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายและอารมณ์ของเด็ก
• การสูญเสียฟันไปก่อนเวลาอันควร มีผลกระทบต่อพัฒนาการด้านการพูด ทำให้เด็กออกเสียงคำบางคำไม่ชัด
• เด็กอาจสูญเสียความมั่นใจเนื่องจากถูกเพื่อนล้อเลียนเรื่องพูดไม่ชัดหรือฟันหลอ ฟันผุ ฟันมีสีที่เปลี่ยนไป
• การเสียฟันน้ำนมไปก่อนกำหนด ทำให้ฟันแท้ที่อยู่ด้านล่างไม่มีพื้นที่มากพอในการขึ้นหรือขึ้นไม่ถูกตำแหน่ง ทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาซ้อนเก

•  ผู้ปกครองควรนำเด็กมาพบกับทันตแพทย์ครั้งแรกเมื่อไหร่

เมื่อฟันน้ำนมของเด็กขึ้นซี่แรกหรือเมื่อมีอายุประมาณ 6 เดือน และไม่เกินอายุ 1 ขวบปี และมาพบทันตแพทย์ตามนัดหมายทุก 4 – 6 เดือน

•  หากเด็กไม่มีฟันผุ ควรพาเด็กมาพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอหรือไม่

ฟันผุหรือปัญหาในช่องปากจะไม่มีอาการให้เห็นหรือสังเกตเห็นได้ยากในช่วงแรก แต่การมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสภาพฟันอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้พบและรักษาฟันผุหรือปัญหาอื่นๆก่อนที่จะรุนแรงมากขึ้น เช่น ฟันเก ฟันซ้อนและการสบฟันผิดปกติ นอกจากนี้ทันตแพทย์ยังให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองในการดูแลรักษาฟันเด็กอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาทางทันตกรรม และช่วยส่งเสริมให้เด็กมีทัศนคติที่ดีในการทำฟัน และดูแลรักษาฟันตนเองต่อไปในอนาคต

•  ทันตแพทย์เด็กแตกต่างจากทันตแพทย์อื่นๆอย่างไร

ทันตแพทย์สำหรับเด็กมีความชำนาญในการดูแลรักษาฟันและช่องปากของเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงวัยรุ่น มีความสามารถในการสื่อสารกับเด็ก มีจิตวิทยาในการเข้าถึง และเข้าใจเด็กในแต่ละช่วงวัยได้อย่างได้อย่างนุ่มนวล และเหมาะสม