bih.button.backtotop.text

การจัดฟันใสในเด็กและวัยรุ่น ทางเลือกเพื่อรอยยิ้มสวยของลูก

การจัดฟันใสในเด็กและวัยรุ่น ทางเลือกเพื่อรอยยิ้มสวยของลูก 

การแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันหรือความผิดปกติของขากรรไกรตั้งแต่ยังเป็นเด็กและวัยรุ่น เป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่รอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีในอนาคต เพราะไม่เพียงช่วยให้การรักษาง่ายขึ้นแต่ยังช่วยลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นตามมาหากรอแก้ไขเมื่อฟันแท้ขึ้นครบ เช่น ฟันผุ โรคเหงือก การละลายของกระดูกที่รองรับฟันและเนื้อเยื่อฟันเสื่อมสภาพ 


การจัดฟันใส Invisalign First สำหรับเด็กเล็ก (อายุ 8-9 ขวบ)

สมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งสหรัฐอเมริกา (American Association of Orthodontists) แนะนำให้เด็กอายุเจ็ดขวบพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อตรวจประเมินปัญหาการเรียงตัวของฟันและการสบฟัน เพื่อให้ทันตแพทย์สามารถตรวจพบปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ  โดยทันตแพทย์จะเริ่มรักษาเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 8-9 ขวบ มีฟันหน้า 4 ซี่และฟันและฟันหลัง 2 ซี่ที่เป็นฟันแท้ เป็นช่วงที่เหมาะสมกับการแก้ไขความผิดปกติของขากรรไกรและกระโหลกใบหน้า การจัดฟันใส Invisalign เหมาะกับเด็กเล็ก เพราะดูแลรักษาความสะอาดง่าย สามารถใส่ได้ตลอดทั้งวัน แม้ในขณะกินอาหาร และถอดออกมาล้างได้เมื่อต้องการ

เป้าหมายของการจัดฟัน Invisalign First คือการแก้ไขปัญหาเท่าที่จำเป็น ไม่ได้มุ่งเน้นความสวยงามเต็มที่ จึงใช้เวลาในการจัดฟันไม่เกิน 1.5 ปี หลังจากนั้นทันตแพทย์อาจให้ใส่รีเทนเนอร์ไปอีกประมาณ 6 เดือนและเว้นระยะการจัดฟัน จนกว่าฟันแท้จะขึ้นครบหรือเมื่ออายุประมาณ 11 ปีขึ้นไป


Invisalign First เหมาะกับใคร

  • เด็กที่มีฟันสบคร่อม (crossbite)  เช่น ฟันหน้าล่างคร่อมฟันหน้าบน แบบซี่เดียวหรือทั้งแผง 
  • เด็กที่มีฟันหน้ายื่นมากและมีโอกาสหกล้มฟันแตกได้
  • มีปัญหาความมั่นใจในตัวเอง 


การจัดฟันใส Invisalign Teen สำหรับเด็กวัยรุ่น (อายุ 11-19  ปี)

การเริ่มจัดฟันสำหรับเด็กวัยรุ่น  ทันตแพทย์ไม่ได้พิจารณาที่อายุเด็กเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาจากความสอดคล้องของอายุฟัน อายุเด็กและอายุกระดูกร่วมกัน ดังนั้นเด็กบางคน เช่น เด็กผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือน ทันตแพทย์อาจแนะนำให้รีบจัดฟัน ในขณะที่เด็กผู้ชายอาจจัดช้ากว่านั้นได้ โดยใช้เวลาในการจัดฟันประมาณ 2-3 ปี สำหรับเด็กที่ได้รับการจัดฟันตั้งแต่เด็ก จะใช้เวลาในการจัดฟันน้อยลงหรือประมาณ 1-1.5 ปี


ขั้นตอนในการจัดฟันใส Invisalign มีอะไรบ้าง

  1. ปรึกษากับทันตแพทย์จัดฟัน
  2. ตรวจฟัน ขูดหินปูน ทำความสะอาดช่องปาก หากมีฟันผุให้อุดฟันให้เรียบร้อย
  3. ทำประวัติ เช่น ทำเอกซเรย์ สแกนปาก
  4. รับเครื่องมือจัดฟันและมาพบแพทย์ตามนัดทุก 3 เดือน


ข้อดีของการจัดฟันใส Invisalign 

  • รักษาสุขภาพภายในช่องปากง่าย เด็กดูแลสุขภาพช่องปากได้เต็มที่ สามารถถอดอุปกรณ์จัดฟันออกมาได้ง่ายในเวลาแปรงฟัน หรือใช้ไหมขัดฟัน และทันตแพทย์ทั่วไปสามารถตรวจฟัน ขูดหินปูนได้ตามปกติ
  • เจ็บน้อยกว่า ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่ขูดกระพุ้งแก้ม 
  • มีความยืดหยุ่น สามารถแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ด้วยตนเอง หากอุปกรณ์เสียหายหรือสูญหาย  
  • ลดความถี่ในการพบทันตแพทย์ พบทันตแพทย์ทุก 3 เดือน เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบโลหะที่ต้องพบทันตแพทย์ทุกเดือน 


ข้อเสียของการจัดฟันแบบ Invisalign 

  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ
  • ผู้ปกครองต้องพร้อมสำหรับการดูแลมากขึ้น การพบทันตแพทย์ทุก 3 เดือนแทนที่จะทุกเดือนเหมือนการจัดฟันแบบโลหะ ทำให้ผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญในการคอยดูแลให้เด็กใส่เครื่องมือจัดฟันอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้การรักษาเป็นไปตามแผนที่วางไว้

การจัดฟันใส Invisalign ในเด็กและวัยรุ่น จำเป็นต้องอาศัยทันตแพทย์จัดฟันผู้ชำนาญ ในการออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพฟันและการเจริญเติบโตของเด็กแต่ละคน ศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีทีมทันตแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการจัดฟันใส Invisalign ที่พร้อมให้คำปรึกษา ประเมินสภาพฟันและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กจะเติบโตไปพร้อมกับรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาว

เรียบเรียงโดย ทพญ. สรพรรณ สมุทรโคจร

 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แก้ไขล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2568

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs