bih.button.backtotop.text

ภาวะกล้ามเนื้อพร่องในผู้สูงวัย (Sarcopenia): ปัญหาเงียบที่กระทบชีวิตประจำวัน

ภาวะกล้ามเนื้อพร่องในผู้สูงวัย (Sarcopenia): ปัญหาเงียบที่กระทบชีวิตประจำวัน

 
เคยสังเกตไหมว่า ผู้สูงวัยรอบตัวเรามักมีอาการ “เดินช้าลง ลุกนั่งลำบาก หกล้มง่ายขึ้น” หรือ แม้แต่น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ?
อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่เพียงความแก่ชรา แต่ คือสัญญาณของ ภาวะกล้ามเนื้อพร่อง (Sarcopenia) ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ซึ่งมีรายงานว่าพบได้ประมาณเกือบ 1 ใน 3 ของผู้สูงวัยทั่วไป
 

ทำไมภาวะกล้ามเนื้อพร่องถึงน่ากังวล

  • หกล้มง่ายขึ้น → เสี่ยงกระดูกหักและทุพพลภาพ
  • สูญเสียความเป็นอิสระ → ทำกิจวัตรประจำวันได้ยาก ต้องพึ่งพาผู้อื่นมากขึ้น
  • เสี่ยงโรคแทรกซ้อน → เช่น นอนโรงพยาบาลบ่อยขึ้น ติดเชื้อง่าย ฟื้นตัวช้า
  • คุณภาพชีวิตลดลง → ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างที่เคยทำได้
  • อัตราการเสียชีวิตสูงขึ้น → หากกล้ามเนื้อเสื่อมหนักและควบคุมโรคประจำตัวไม่ได้
 

ภาวะกล้ามเนื้อพร่อง (Sarcopenia) คืออะไร

คือ ภาวะที่มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงลดลงต่อเนื่องตามอายุ จัดเป็น “กลุ่มอาการผู้สูงวัย (Geriatric Syndrome)” ที่ส่งผลทั้งต่อร่างกายและจิตใจ
 


สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

  • อายุที่มากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อจะลดลงตามธรรมชาติ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ไม่ค่อยเคลื่อนไหว หรือขาดการออกกำลังกาย ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง กล้ามเนื้อฝ่อลีบและอ่อนแรงลง
  • โรคประจำตัวเรื้อรังหลายโรค เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง หรือโรคมะเร็ง อาจเพิ่มความเสี่ยงให้มวลกล้ามเนื้อลดต่ำเร็วกว่าปกติ
  • ภาวะทุพโภชนาการหรือโรคอ้วน การขาดสารอาหารบางประเภท (เช่น ขาดวิตามินดี) ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอลงได้ ขณะเดียวกันผู้สูงวัยที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนก็อาจมีไขมันแทรกในเนื้อกล้ามเนื้อมากขึ้นและสูญเสียกล้ามเนื้อคุณภาพดีได้เร็วกว่าปกติ
  • การรับประทานโปรตีนไม่เพียงพอ หากร่างกายได้รับโปรตีนหรือสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอจะส่งผลให้ร่างกายซ่อมแซมหรือสร้างกล้ามเนื้อใหม่ได้น้อย ผู้สูงวัยมักเผชิญปัญหาเรื่องฟัน การย่อย หรือความอยากอาหารลดลง ทำให้ได้รับโปรตีนไม่พอเพียงต่อความต้องการ


การวินิจฉัย

  • วัดแรงบีบมือ โดยใช้เครื่อง Handgrip dynamometer ซึ่งค่าแรงบีบมือต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานบ่งชี้ถึงแรงกล้ามเนื้อทั้งร่างกายที่ลดลง
  • ตรวจมวลกล้ามเนื้อ เช่น การวิเคราะห์ความต้านทานไฟฟ้า (bioelectrical impedance analysis: BIA) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้กระแสไฟฟ้าอ่อนผ่านร่างกายเพื่อคำนวณสัดส่วนกล้ามเนื้อกับไขมัน


วิธีดูแลและป้องกัน

  • การออกกำลังกายแบบต้านแรง เช่น การยกน้ำหนัก การใช้ยางยืด การลุกนั่งจากเก้าอี้ เพื่อสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อ
  • การรับประทานโปรตีนให้พอ โปรตีนที่แนะนำคือประมาณ 1.0-1.3 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน (เช่น ผู้สูงวัยหนัก 60 กิโลกรัม ควรได้โปรตีนประมาณ 60-78 กรัมต่อวัน)
  • การเสริมวิตามินดี ในผู้สูงวัยที่มีภาวะขาดวิตามินดี มีความสัมพันธ์กับมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกระดูก โดยผู้สูงวัยสามารถรับวิตามินดีจากแสงแดด อาหาร (เช่น ปลาที่มีไขมันสูง ไข่แดง นม) หรือรับประทานวิตามินเสริมตามคำแนะนำของแพทย์
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงและดูแลสุขภาพโดยรวม เลี่ยงการบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการควบคุมและรักษาโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ให้มีอาการคงที่ พักผ่อนเพียงพอ ลดความเครียด และกระตุ้นให้มีกิจกรรมเคลื่อนไหวตามความเหมาะสมในชีวิตประจำวัน เช่น เดินเล่น ทำงานบ้านเบาๆ
 
ภาวะกล้ามเนื้อพร่องไม่ใช่แค่ “กล้ามเนื้ออ่อนแรงตามวัย” แต่เป็นภาวะที่ทำให้ผู้สูงวัยเสี่ยงต่อการหกล้ม การเจ็บป่วย และการสูญเสียคุณภาพชีวิต การดูแลสุขภาพให้ครบทั้ง โภชนาการ + การออกกำลังกาย + การตรวจสุขภาพ คือวิธีที่ช่วยให้ผู้สูงวัยยังคงแข็งแรงและใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ
 
 
เรียนเรียงโดย ผศ.พญ. ศุภกัญญา วงศ์รักษ์พานิช
 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แก้ไขล่าสุด: 01 ตุลาคม 2568

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs