bih.button.backtotop.text

ลำไส้อักเสบ แก้ไขได้ด้วยสิ่งนี้

ลำไส้อักเสบไม่ใช่เพียงแค่การระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร แต่คือโรคที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของทางเดินอาหาร อันมีสาเหตุจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดพลาดและโจมตีเซลล์ของร่างกายเอง โดยยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร


หลายคนอาจเคยมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว หรือรู้สึกไม่สบายท้องบ่อย ๆ แล้วปล่อยผ่านไปโดยไม่ใส่ใจ แต่อาการเหล่านี้อาจเป็นมากกว่าปัญหาทางเดินอาหารทั่วไป เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือ Inflammatory Bowel Disease (IBD) ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และหากปล่อยไว้อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงตามมา

 

อาการของโรคที่เกี่ยวกับลำไส้

ไม่ว่าจะเป็น ลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือ ลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD) มักมีอาการที่คล้ายกัน ดังนี้:
  • ปวดท้องเป็นๆ หายๆ
  • การขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องผูก, ท้องเสีย หรือสลับกัน
  • อาการปวดท้องกลางคืนหรือขณะนอนหลับ
  • บางรายมีถ่ายเป็นมูก, ถ่ายมีเลือด หรือรู้สึกถ่ายไม่สุด
สิ่งสำคัญที่ต้องสังเกตคือ หากอาการผิดปกตินั้น รบกวนคุณภาพชีวิต เช่น ปวดท้องบ่อยๆ โดยไม่มีสาเหตุ หรือถ่ายผิดปกติขณะนอนหลับ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กอย่างละเอียด


ความแตกต่างระหว่างลำไส้แปรปรวนกับลำไส้อักเสบเรื้อรัง

  • ลำไส้แปรปรวน (IBS) เป็นเพียงความผิดปกติด้านการทำงาน (Functional Disorder) ไม่มีการอักเสบของผนังลำไส้หรือโครงสร้างผิดปกติ
  • ลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD) เช่น Crohn's Disease หรือ Ulcerative Colitis จะมีการอักเสบของผนังลำไส้จริง ทำให้เกิดแผล, การบวม, เลือดออก หรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

 

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของลำไส้อักเสบเรื้อรัง

ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าอะไรเป็นตัวการหลัก แต่มักเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น
  • การรับประทานอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก, ของปิ้งย่าง
  • ความเครียดและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
  • การรับประทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อต้านผนังลำไส้ตนเอง

 

การวินิจฉัยโรคของลำไส้

ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มี แพ็คเกจการตรวจลำไส้ สำหรับคัดกรองเบื้องต้น โดยจะประกอบด้วย:
  • การตรวจเลือด
  • การตรวจอุจจาระหาโปรตีนและสารบ่งชี้การอักเสบ
ความแม่นยำสูงกว่า 90% สามารถบอกได้ว่าเป็น ลำไส้แปรปรวน หรือ ลำไส้อักเสบ เพื่อนำไปสู่การรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

 

แนวทางการรักษา

  • ปรับพฤติกรรมและอาหาร: เลี่ยงอาหารหมักดอง, Processed Food และ Fast Food
  • จัดการความเครียด: พักผ่อนให้เพียงพอ คุณภาพการนอนต้องดี
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยปรับสมดุลสารเคมีในร่างกาย
  • รับการรักษาทางการแพทย์: อาจใช้ยาต้านการอักเสบ, ยารับประทาน, ยาฉีด หรือในบางรายอาจต้องผ่าตัดหากลำไส้เสียหายหนัก

โดย รศ.พญ. สติมัย อนิวรรณน์
แพทย์เฉพาะทางด้านโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง


 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แก้ไขล่าสุด: 02 กรกฎาคม 2568

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs