bih.button.backtotop.text

วิธีรักษาและป้องกันมะเร็งตับ

การรักษาโรคมะเร็งตับขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนและระยะของตับที่มีการเสื่อมสมรรถภาพ หากเราพบโรคในระยะเริ่มต้นก็สามารถที่จะผ่าตัดตัวก้อนออกไปได้


การรักษาและการป้องกันโรคมะเร็งตับ


โรคมะเร็งตับ (Liver Cancer) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย และถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ การรักษาและป้องกันโรคมะเร็งตับขึ้นอยู่กับ ขนาดของก้อนมะเร็ง รวมถึง สมรรถภาพของตับ ที่เหลืออยู่


วิธีการรักษามะเร็งตับ

  1. การผ่าตัดตับ (Liver Resection) หากตรวจพบโรคมะเร็งตับในระยะเริ่มต้น มีก้อนที่ยังไม่ใหญ่มาก และตับยังทำงานได้ปกติ การรักษาหลักคือ การผ่าตัดนำก้อนมะเร็งออก วิธีนี้สามารถช่วยผู้ป่วยหายขาดได้หากโรคยังไม่ลุกลาม
  2. การปลูกถ่ายตับ (Liver Transplant) ในกรณีที่สภาพตับเสื่อมสมรรถภาพลงมาก แม้ว่าก้อนมะเร็งจะยังมีขนาดเล็ก การผ่าตัดอาจเสี่ยงเกินไป แพทย์จะพิจารณาใช้วิธี การปลูกถ่ายตับ โดยนำตับเดิมที่มีปัญหาออก และใส่ตับใหม่แทน
  3. การรักษาด้วยเทคนิคทางรังสีและยา หากก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ หรือโรคมีการลุกลาม แพทย์อาจใช้การรักษาเสริม เช่น
  • เทคนิคทางรังสีวิทยา (Interventional Radiology)
  • การให้ยาเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของมะเร็ง


การป้องกันโรคมะเร็งตับ

หัวใจสำคัญของ การป้องกันโรคมะเร็งตับ คือการรู้เท่าทันความเสี่ยงและตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ


ใครบ้างที่ควรตรวจคัดกรองมะเร็งตับ?

  • ผู้ที่มีโรคตับแข็ง
  • ผู้ที่มีภาวะตับอักเสบเรื้อรัง
  • ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
  • ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีโรคตับไขมัน
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งตับ
  • เหตุผลที่ต้องตรวจคัดกรองมะเร็งตับ

การตรวจคัดกรองสามารถช่วยตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากรอจนมีอาการ มักพบว่าโรคอยู่ในระยะลุกลามแล้ว


สรุป: หัวใจของการรักษาโรคมะเร็งตับ

หัวใจสำคัญของ การรักษามะเร็งตับ คือการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หากพบโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ ทั้งด้วยวิธี การผ่าตัดตับ หรือ การปลูกถ่ายตับ

หากคุณมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับ หรือไม่แน่ใจว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษา และเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างเหมาะสม

 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แก้ไขล่าสุด: 20 สิงหาคม 2568

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs