แสงแดดเป็นตัวการทำลาย
ผิวที่สำคัญ ทำให้เกิดผิวหนังไหม้ คล้ำ เกิดกระ ฝ้า หรือรอยเหี่ยวย่น และอาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งผิวหนังได้
แม้ช่วงนี้จะย่างเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่แสงแดดก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป ยังคงแผดเผาทำลายผิวของเราทุกวัน คนส่วนใหญ่จึงมักป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำลายจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดด แต่จะทราบได้อย่างไรว่าครีมกันแดดที่เลือกเหมาะสมแล้วหรือไม่ และต้องทามากน้อยแค่ไหนจึงจะป้องกันได้
จะซื้อครีมกันแดดต้องพิจารณาอะไรบ้าง
ในปัจจุบันมีครีมกันแดดให้เลือกซื้ออย่างมากมายในท้องตลาด การเลือกครีมกันแดดที่ดีจะต้องพิจารณาถึง
- ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด โดยดูจากค่า SPF (sun protection factor) ซึ่งก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจก่อนว่ารังสียูวีในแดดมีอยู่ 2 ชนิด คือ UVA ซึ่งเป็นรังสีที่มีอยู่ตลอดทั้งวันตั้งแต่เริ่มมีแสงไปจนถึงพระอาทิตย์ตก และเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดริ้วรอยต่างๆ เมื่ออายุมากขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปตากแดด แต่หากนั่งทำงานริมหน้าต่าง ก็มีโอกาสได้รับรังสี UVA ได้ รังสีอีกชนิดคือ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวไหม้แดดและหมองคล้ำ สามารถส่งผลให้เห็นได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง
โดยทั่วไปแล้ว การทาครีมที่มี SPF จะสามารถปกป้องได้เฉพาะรังสี UVB เท่านั้น แต่ไม่สามารถป้องกันรังสี UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ การเลือกซื้อครีมกันแดดที่ดีจะต้องเลือกชนิดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยสังเกตจากข้อมูลที่ระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่มักมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก SPF ว่าสูงหรือต่ำจึงจะดีกว่ากัน ในความเป็นจริงแล้ว SPF ที่มากกว่า 30 ขึ้นไปให้ฤทธิ์ของการปกป้องแสงแดดแตกต่างกันน้อยมาก โดย SPF 15 สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ 93% SPF 30 ป้องกันได้ 97% ในขณะที่ SPF มากกว่า 50 ป้องกันได้ 98% ซึ่งแตกต่างกันเพียง 1% จึงอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงๆ
- ความเข้ากันได้และเหมาะสมกับสภาพผิว ครีมกันแดดที่ดีจะต้องเข้าได้กับสภาพผิวหน้าของเรา สามารถกระจายได้ดี ไม่ทำให้เกิดคราบ ครีมกันแดดในปัจจุบันมีในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีม เจล หรือโลชั่น ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวต่างๆ กัน เช่น คนผิวมันควรเลือกชนิดที่เป็นเจลหรือโลชั่น เป็นต้น
ใช้ครีมกันแดดแค่ไหนถึงป้องกันแสงแดดได้
ปริมาณครีมกันแดดที่ใช้เป็นเรื่องสำคัญ โดยส่วนใหญ่แล้วคนเรามักใช้ปริมาณครีมกันแดดน้อยกว่าปกติ ซึ่งทำให้ผลในการปกป้องผิวจากแสงแดดลดน้อยลงไปด้วย
ในทางทฤษฎีแล้ว การทาครีมกันแดดให้ได้ผลจะต้องใช้ปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อตารางเซนติเมตร นั่นหมายถึง การทาครีมกันแดดบนใบหน้า 1 ครั้งจะต้องใช้ครีมกันแดด 1 กรัม และการทาครีมกันแดดทั่วตัวจะต้องใช้ปริมาณครีมกันแดด 35 มิลลิลิตร
หากเปรียบเทียบโดยการใช้ช้อนกาแฟเป็นตัววัดปริมาณ การทาครีมกันแดดบนใบหน้าจะต้องใช้ครีมกันแดดในขนาดครึ่งช้อนชา หรือประมาณ 2 ข้อของปลายนิ้วกลาง จึงจะเพียงพอต่อการป้องกันแสงแดด
อย่างไรก็ดี แม้ตามหลักของการทาครีมกันแดดจะแนะนำให้ทามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ในชีวิตประจำวันอาจเป็นการยากที่จะใช้ครีมกันแดดในปริมาณมากๆ ดังนั้น การเลือกครีมกันแดดที่ดีตามปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจึงมีความสำคัญที่จะช่วยปกป้องผิวสวยๆ จากแสงแดดได้
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: