bih.button.backtotop.text

วิธีตรวจหามะเร็งปากมดลูก

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก สามารถทำได้ 2 วิธี คือ Papsmia หรือ Co-test ซึ่งการตรวจด้วยวิธี Co-test จะเพิ่มความแม่นยำ เนื่องจากสามารถตรวจความผิดปกติได้ถึงระดับเซลล์


สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก

สาเหตุหลักเกือบ 100% ของมะเร็งปากมดลูกคือการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่เข้าสู่ร่างกายของผู้หญิงที่บริเวณปากมดลูก โดย 85% ของการติดเชื้อเกิดจากเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะติดเชื้อได้เฉพาะช่องทางนี้เท่านั้น อีก 15% อาจเกิดจากการปนเปื้อนจากสิ่งของสาธารณะ เช่น ห้องน้ำ หรือสิ่งของอื่น ๆ ที่เราสัมผัส ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน
 

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่:

  1. การตรวจแบบดั้งเดิม (Pap smear): วิธีนี้ต้องตรวจทุกปี เนื่องจากมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย

  2. การตรวจแบบใหม่ (HPV test): เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV โดยตรง หากตรวจพบไวรัสจึงจะทำการตรวจหาเซลล์ผิดปกติเพิ่มเติม วิธีนี้มีความแม่นยำสูงกว่ามาก

สำหรับผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อทราบว่ามีเชื้อไวรัสอยู่ในร่างกายและมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหรือไม่ ส่วนผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้เริ่มตรวจเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป

ข้อดีของการตรวจแบบใหม่คือ หากตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติ สามารถเว้นช่วงการตรวจไปได้ถึง 2-3 ปี ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกปี

หากคุณผู้หญิงมีอายุ 25 ปีขึ้นไป หรือเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ขอเชิญชวนให้มาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ที่แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

เรียบเรียงโดย นพ. ฉันทวัฒน์ เชนะกุล
สูตินารีแพทย์ นรีเวชวิทยา

รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แก้ไขล่าสุด: 02 กันยายน 2568

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs