ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งด้วยคอเรสเตอรอลชนิดดี
เมื่อเดือนมิถุนายน 2010 สถาบันวิจัย Tufts Medical Center Molecular Cardiology Research Institute ในสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณคอเรสเตอรอลกับการเป็นโรคมะเร็ง โดยพบว่าผู้ที่มีคอเรสเตอรอลชนิดดี หรือ HDL (High Density Lipoprotein) อยู่ในระดับสูงจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งน้อยลง
การค้นพบที่ถูกตีพิมพ์ใน Journal of the American College of Cardiology นี้เกิดจากการวิเคราะห์งานวิจัยด้านสุขภาพที่เน้นความเกี่ยวข้องของคอเรสเตอรอลกับโรคหัวใจจำนวน 24 ฉบับ และพบว่าความเสี่ยงต่อมะเร็งของผู้ป่วยลดลงประมาณหนึ่งในสามต่อการเพิ่มขึ้นของคอเรสเตอรอลชนิดดี 10 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าคอเรสเตอรอลชนิดดีจะสามารถป้องกันมะเร็งได้ทั้งหมดเพราะบทบาทของคอเรสเตอรอล ชนิดนี้คือช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยยับยั้งพัฒนาการของเซลล์มะเร็งซึ่งเรื่องของคอเรสเตอรอลกับมะเร็งนี้ยังต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมดังนั้นในระหว่างนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำ การได้รับสารอาหารที่เพียงพอและการใส่ใจต่อสุขภาพยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มคอเรสเตอรอลชนิดดี
สิ่งที่รายงานนี้ จำเป็นต้องทำการวิจัยต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลสรุปที่แน่ชัดต่อไป
อันตรายสองเท่าของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
The Lancet วารสารการแพทย์ของอังกฤษ ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นสำคัญซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจวายมากกว่าผู้ที่มีสุขภาพปกติถึงสองเท่า โดยผลการวิจัยนี้มาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในสหราชอาณาจักรซึ่งทำการวิเคราะห์ประวัติทางการแพทย์ของผู้ใหญ่จำนวนมากถึงราว 700,000 คนจากงานวิจัยกว่า 100 ฉบับ ใน 25 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน สถานการณ์ของโรคเบาหวานในประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้วทั้งหลายแทบไม่ต่างอะไรจากโรคระบาด ร้อยละ 10ของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจมีสาเหตุมาจากเบาหวาน ซี่งจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ล้วนเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การขาดการออกกำลัง และความอ้วน
งานวิจัยชิ้นนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของการป้องกันโรคเบาหวานซึ่งทำได้ด้วยการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
พบแพทย์บ่อยครั้ง ช่วยลดความดันโลหิตได้
อีกหนึ่งผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Hypertension ของ American Heart Association ซึ่งพบว่าการไปพบแพทย์บ่อยครั้งของผู้ป่วยโรคเบาหวานจะช่วยให้ระดับความดันโลหิตกลับสู่ปกติได้เร็วกว่า ทั้งนี้ ความดันโลหิตสูงสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานถือเป็นอาการที่รุนแรงเพราะอาจก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดในสมอง หัวใจวาย และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ล้วนมีอันตรายถึงชีวิต
สำหรับผลสรุปดังกล่าว ได้มาจากการศึกษาความเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิตกับความถี่ในการไปพบแพทย์ของผู้ป่วยโรคเบาหวานจำนวนถึง 5,000 คน เป็นระยะเวลา 5 ปี ผลปรากฏว่า กลุ่มผู้ป่วยที่ไปพบแพทย์อย่างน้อยเดือนละครั้งนั้น โดยเฉลี่ยแล้วความดันโลหิตจะกลับเป็นปกติภายในเวลาน้อยกว่าสองเดือน ในขณะที่ผู้ป่วยซึ่งไปพบแพทย์น้อยกว่าหนึ่งครั้งต่อเดือนใช้เวลาเกินกว่าหนึ่งปีกว่าที่ความดันโลหิตจะลดลงเป็นปกติ
แม้ว่าสาเหตุที่แน่ชัดของความแตกต่างนี้ยังไม่สามารถระบุได้ งานวิจัยนี้ได้เน้นให้เห็นความสำคัญของการควบคุมโรคเบาหวานอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่เกิดจากโรคเบาหวาน ได้แก่ คุณภาพของการรักษา การได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 29 มีนาคม 2565