bih.button.backtotop.text

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกและวัคซีนป้องกัน

20 มกราคม 2550

โดยสถิติมะเร็งปากมดลูก
 

  • เป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยมากถึงประมาณ 3,000 คนต่อปี
  • พบมากเป็นอันดับสองรองจากมะเร็งเต้านม แต่ละปีจะพบผู้ป่วยรายใหม่ที่เป็นมะเร็งปากมดลูกถึง 500,000 คนทั่วโลก
  • เกิดขึ้นได้กับหญิงทุกวัย และพบมากเป็นอันดับสองในสตรีที่อายุต่ำกว่า 45 ปี อาจป้องกันได้ด้วยการเข้ารับการตรวจ Pap Test อย่างสม่ำเสมอทุกปี
  • ซึ่งจะสามารถตรวจพบได้ง่ายแม้จะอยู่ในระยะก่อตัว การรักษาก็ไม่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง


การคิดค้นวัคซีนป้องกันมะเร็งชนิดแรกของโลกได้เป็นผลสำเร็จสร้างความปิติยินดีไปทั้วโลก วัคซีนชนิดใหม่นี้สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่เกิดจากการติดเชื้อได้ และมีใช้แล้วในประเทศไทยและอีกหลายๆ ประเทศ ต่อไปนี้เป็นคำถามที่ถามกันมากเกี่ยวกับการค้นพบที่จะช่วยให้ผู้หญิงปลอดภัยจากมะเร็งปากมดลูก

 

HPV คืออะไร

HPV คือ ไวรัสชนิดหนึ่งซึ่งมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ เป็นไวรัสที่ส่งผลกระทบกับร่างกายได้หลายส่วน บางชนิดแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง และมะเร็งที่ทวารหนัก หรือมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์ในผู้ชาย ผู้หญิงถึงประมาณร้อยละ 80 ติดเชื้อ HPV ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต เชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีอันตรายน้อย จะจัดอยู่ในกลุ่ม “ความเสี่ยงต่ำ” ขณะที่สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งจัดอยู่ในกลุ่ม “ความเสี่ยงสูง” ซึ่งการสวมถุงยางอนามัยช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสได้แต่ไม่ได้กำจัดเชื้อ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกซึ่งมีใช้แล้วในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย จะช่วยป้องกันผู้หญิงจากการติดเชื้อ HPV ทั้งสี่สายพันธุ์ที่พบโดยทั่วไปได้เป็นอย่างดี

 

วัคซีนดังกล่าวทำงานอย่างไร

วัคซีนจะช่วยป้องกันเชื้อไวรัส HPV สองสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งพบในผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกถึงร้อยละ 70 และยังช่วยป้องกันเชื้อไวรัส HPV อีกสองสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำซึ่งก่อให้เกิดโรคหูดที่อวัยวะเพศถึงร้อยละ 90 การให้วัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัส HPV ทั้งสี่สายพันธุ์ต้องให้สามครั้งในระยะเวลาหกเดือน และให้ประสิทธิภาพในการป้องกันได้ถึงร้อยละ 100 ตามการวิจัย

 

ใครควรได้รับการฉีดวัคซีน HPV

รัฐบาลสหรัฐฯ และแคนาดาแนะนำให้ผู้หญิงอายุ 9 ถึง 26 ปีฉีดวัคซีนนี้ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้ววัคซีนก็ยังให้ผลในการป้องกันหากยังไม่ได้รับเชื้อไวรัสดังกล่าว

 

วัคซีนดังกล่าวปลอดภัยหรือไม่

ปลอดภัย โดยจากการศึกษาพบว่ามีผลข้างเคียงต่อผู้เข้ารับการทดสอบบางประการ เช่น อาการปวดบวมจากการฉีด ที่สำคัญจะไม่มีการแพร่เชื้อไวรัสจากการฉีดวัคซีนชนิดนี้เป็นอันขาด สตรีมีครรภ์และผู้ที่แพ้ส่วนผสมบางอย่างของวัคซีนไม่ควรได้รับวัคซีนดังกล่าว วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ได้ถึงสี่สายพันธุ์ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในกรณีผู้หญิงได้รับเชื้อไวรัสไปแล้วสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง การฉีดวัคซีนก็ยังสามารถป้องกันการติดเชื้อจากสายพันธุ์อื่นๆ เพิ่มได้เช่นกัน

 

วัคซีนจะมีผลในการป้องกันนานเท่าไร

จากการศึกษาพบว่าวัคซีนสามารถป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้อย่างน้อย 4 ปี และกำลังอยู่ในระหว่างการวิจัยว่า หลังจาก 4 ปีไปแล้วจะต้องรับวัคซีนเพิ่มหรือไม่

ในกรณีที่ได้รับวัคซีนแล้วยังจำเป็นต้องตรวจมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ สตรีและเด็กสาวที่ได้รับวัคซีนแล้วจำเป็นต้องได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกต่อไป เนื่องจากวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV บางชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและหูดบริเวณอวัยวะเพศเท่านั้น ไม่ใช่เชื้อ HPV ทั้งหมด ที่สำคัญยังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้อีก ดังนั้นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วจึงมีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อ HPV สายพันธุ์อื่นและยังคงเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกจากสาเหตุอื่นอีก วัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ถือเป็นก้าวสำคัญของการป้องกันโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม อย่าลืมปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับคุณและบุตรสาวของคุณก่อนทุกครั้ง

 

รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs