bih.button.backtotop.text

ข้ออักเสบต่างจากข้อเสื่อมอย่างไร กลุ่มเสี่ยง อาการและความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

โรคข้อเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในคนทุกกลุ่มอายุ หลายคนอาจสงสัยว่าอาการเกี่ยวกับข้อที่กำลังเผชิญอยู่ คือโรคข้ออักเสบหรือโรคข้อเสื่อมกันแน่ เราจะไขข้อสงสัยถึงความแตกต่างที่สำคัญระหว่างโรคข้ออักเสบกับโรคข้อเสื่อม เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถสังเกตอาการของตัวเองได้ในเบื้องต้น ก่อนมาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป


โรคข้ออักเสบและโรคข้อเสื่อมมีความหมายและสาเหตุแตกต่างกันอย่างไร


โรคข้ออักเสบ (Arthritis)   เป็นคำที่ใช้อธิบายภาวะข้อต่อ มากกว่า 100 ชนิดที่ทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่อมากกว่าหนึ่งข้อขึ้นไป ตัวอย่างโรคข้ออักเสบได้แก่ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเกาต์ โรคเกาต์เทียม โรคข้ออักเสบจากการติดเชื้อและโรคลูปัส (SLE) เกิดได้จากหลายสาเหตุต่างกันในแต่ละโรค เช่น  พันธุกรรม ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ มีภาวะกรดยูริกสะสมในเลือดเป็นเวลานาน มีการติดเชื้อเกิดขึ้นภายในข้อ หรือมีการติดเชื้อลามมาจากอวัยวะอื่น เป็นต้น

โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) เกิดจากกระดูกอ่อนผิวข้อสึกหรอลงเมื่ออายุมากขึ้น ผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน การบาดเจ็บที่ข้อต่อหรือแรงกดบนข้อต่อจากน้ำหนักตัวหรือจากการใช้งานหนักเกินไป ดังนั้นโรคข้อเสื่อมจึงมักเกิดกับข้อต่อที่ต้องรับน้ำหนักมากที่สุด เช่น หัวเข่า สะโพกและกระดูกสันหลัง


ใครบ้างที่มีความเสี่ยง

  • ปัจจัยทางพันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคข้อ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ได้มากกว่าคนทั่วไป
  • เพศ  ผู้หญิงมีโอกาส เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์มากกว่าผู้ชาย ในขณะที่ผู้ชายเป็นโรคเกาต์มากกว่าผู้หญิง
  • นักกีฬา โดยเฉพาะผู้ที่เล่นกีฬาที่มีแรงปะทะหรือมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของข้อเข่า เช่น มวย วิ่งมาราธอน เทนนิส บาสเกตบอล และฟุตบอล
  • ประเภทของอาชีพ อาชีพที่ต้องใช้งานข้อต่อบางส่วนของร่างกายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น ยืน คุกเข่า ยกของ
  • น้ำหนักตัวเกิน ทำให้มีแรงกดบนข้อต่อโดยเฉพาะ ข้อเข่า ข้อสะโพกและกระดูกสันหลัง
  • ประวัติการบาดเจ็บ เคยได้รับบาดเจ็บที่ข้อต่อมาก่อน



อาการของโรคข้ออักเสบและโรคข้อเสื่อมมีความแตกต่างกันอย่างไร

อาการหลักของโรคข้ออักเสบและข้อเสื่อมคือ อาการปวดและข้อแข็งติดยึด แต่จะมีรายละเอียดของอาการที่แตกต่างกันไปบ้างดังนี้
  • โรคข้ออักเสบ อาการปวดอาจไม่สัมพันธ์กับการใช้งาน เช่น มีอาการปวดเวลาพัก หรือเวลากลางคืน มักเกิดอาการข้อตึงแข็งในตอนเช้าเป็นเวลานาน นอกจากนี้โรคข้ออักเสบอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ข้อต่อบวม แดง ร้อนซึ่งเป็นสัญญาณของการอักเสบที่ชัดเจน
  • โรคข้อเสื่อม อาการของโรคจะค่อยเป็นค่อยไป เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อาการปวดจะแย่ลงเมื่อมีการใช้งานข้อต่อ เช่น การวิ่งหรือการเดินเป็นเวลานาน และดีขึ้นเมื่อได้พัก ข้อต่อจะรู้สึกแข็งตึงหลังตื่นนอนหรือหลังพักอยู่กับที่เป็นเวลานาน แต่จะดีขึ้นเมื่อเริ่มขยับตัว ในระยะที่โรคดำเนินไปมากแล้ว อาจรู้สึกเหมือนมีเสียงกรอบแกรบในข้อ
 
อาการปวดข้อไม่ใช่เรื่องที่ควรเพิกเฉย การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างโรคข้อเสื่อมและโรคข้ออักเสบถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการดูแลสุขภาพ ทีมแพทย์ผู้ชำนาญด้านกระดูกและข้อของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์พร้อมให้การวินิจฉัยที่แม่นยำและการรักษาที่ตรงจุด เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อีกครั้ง
 

เรียบเรียงโดย : นพ. ภาคภูมิ สมรักษ์

 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 07 สิงหาคม 2568

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs