bih.button.backtotop.text

บอกเล่าประสบการณ์ตรงจากคุณแม่และน้องขจร ที่ตัดสินใจจัดฟันใสตั้งแต่วัยเด็ก

บอกเล่าประสบการณ์ตรงจากคุณแม่และน้องขจร ที่ตัดสินใจจัดฟันใสตั้งแต่วัยเด็ก จากความกังวลใจเรื่องความเจ็บ ความยุ่งยาก และความจำเป็นว่าจะต้องจัดฟันซ้ำตอนโตหรือไม่ สู่คำตอบและคำอธิบายจากคุณหมอ พร้อมผลลัพธ์ที่ทำให้ครอบครัวมั่นใจว่าการจัดฟันใสตั้งแต่เด็กคือการลงทุนเพื่อรอยยิ้มและความมั่นใจในอนาคต


ประสบการณ์การจัดฟันของน้องขจรที่บำรุงราษฎร์

เดิมทีน้องเกิดที่บำรุงราษฎร์เลยค่ะ เรียกได้ว่าโตขึ้นมากับคุณหมอและพี่ ๆ พยาบาลของบำรุงราษฎร์ คุณแม่ก็นำน้องมาหาหมอฟันตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้อายุ 13 ปีแล้ว คุณหมอประจำของน้องทักว่าน้องมีปัญหาเรื่องฟันยื่น ฟันเก และเรื่องของขากรรไกร ซึ่งพอเขาโตขึ้นมาเรื่อย ๆ คุณแม่ก็เห็นความผิดปกติ จึงตัดสินใจมาปรึกษากับคุณหมอ


การตรวจครั้งแรก

ฟันของน้องขจร ตอนที่ตรวจครั้งแรกพบว่าฟันหน้ายื่นประมาณ 10 มิลลิเมตร ซึ่งปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2 มิลลิเมตร ทำให้เสี่ยงต่อการหกล้มหรืออุบัติเหตุ ฟันอาจกระแทกพื้นจนหลุด หัก หรือบิ่นได้

ส่วนขากรรไกรล่างมีขนาดเล็ก ขัดขวางพื้นที่ฟันแท้ที่จะขึ้น อีกทั้งฟันล่างเบี้ยวไปทางขวาและถอยหลัง ทำให้คุณหมอคิดว่าการจัดฟันในช่วงนั้นจะดีที่สุด เพราะช่วยกระตุ้นการเจริญของขากรรไกร ปรับโครงสร้างใบหน้า และขยายพื้นที่ให้ฟันแท้ขึ้น


ความกังวลก่อนจัดฟัน

ก่อนจัดฟัน น้องและคุณแม่มีความกังวลหลายอย่าง

ความเจ็บปวดและการใช้ชีวิตประจำวัน
กลัวว่าจะเจ็บ ใส่เครื่องมือแล้วลำบาก หรือรบกวนชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะหากเป็นเครื่องมือแบบติดแน่นที่อาจระคายเคืองช่องปาก

น้องขจรเล่าว่า “ไม่มีปัญหาเลยครับ อาทิตย์แรกที่ได้รับอินวิสไลน์ (Invisalign) ก็มีเจ็บนิดหน่อย แต่หลังจากหนึ่งสัปดาห์ก็กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ เพียงแค่ถอดเวลาแปรงฟันและกินข้าว ดูแลความสะอาดใช้เวลาไม่นาน รู้สึกดีมาก และยังเล่นกีฬาได้ตามปกติ”

คุณหมอเสริมว่า เครื่องมือชนิดนี้บางและเบา จึงไม่รบกวนคุณภาพชีวิต สามารถทำกิจกรรมได้เกือบทุกอย่าง

ความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
กังวลว่าจัดฟันตั้งแต่เด็กแล้ว โตขึ้นจะต้องจัดใหม่หรือไม่

คุณหมออธิบายว่า “ในบางเคสอาจต้องจัดเพิ่มเติม แต่สำหรับน้องขจร จัดเสร็จแล้วโครงหน้าดีขึ้น ขากรรไกรและใบหน้าสมดุลมากขึ้น เพราะจัดในช่วงที่ยังมีการเจริญเติบโต ทำให้ไม่ต้องเสียเงินซ้ำตอนโต”


ระยะเวลาและผลลัพธ์

การจัดฟันของน้องขจรใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง หลังจากนั้นยังคงมีการดูแลต่อด้วยรีเทนเนอร์อีกประมาณ 2 ปี

คุณแม่เล่าว่า “รู้สึกว่าหล่อขึ้นค่ะ เห็นโครงหน้าชัดขึ้น การสบฟันก็ดีขึ้น ทำให้เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น การนอนก็ดีขึ้น เพราะเมื่อก่อนเวลานอนฟันจะยื่นออกมานิดหนึ่ง ตอนนี้เข้าที่เข้าทางแล้ว การขยายขากรรไกรก็ช่วยให้ทางเดินอากาศกว้างขึ้น อาการกรนลดลง หลับลึกและสบายขึ้น”

หลังจากคุณหมอโชว์แผนภาพและอธิบายอย่างละเอียด ทำให้คุณแม่มองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของฟันหลังจัดฟัน จึงไม่มีความกังวลและประทับใจมาก


ความรู้สึกของน้องและคุณแม่

น้องขจรเล่าว่า “ก่อนจัดฟัน ฟันผมยื่นออกมาเหมือนกระต่าย แต่พอใส่อินวิสไลน์ ฟันก็ปรับดีขึ้น ผมอยากขอบคุณคุณหมอครับ”
คุณแม่เสริมว่า “ประทับใจมาก ๆ ที่คุณหมอช่วยทำให้ลูกชายหล่อขึ้นได้ขนาดนี้”
คุณหมอตอบกลับว่า “หมอก็ต้องขอบคุณคนไข้ที่ช่วยดูแลเครื่องมืออย่างดี ใส่อย่างถูกต้อง และดูแลทุกอย่างจนสำเร็จค่ะ”

สนับสนุนโดย ทพญ. รณิต ศุภพิพัฒน์ 

 
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แก้ไขล่าสุด: 01 ตุลาคม 2568

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs