You're been inactive for a while. For security reason, we'll automatically sign you out from our website. Please Click "Login" to extend your session
ตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วย ผลการตรวจ กำหนดการนัด และอื่นๆ
ขณะนี้ ไม่สามารถเข้าสู่ระบบด้วยเบอร์โทรศัพท์เป็นการชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก
ยังไม่มีบัญชี? Create Account
ติดตามข่าวสารล่าสุด และ นัดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกได้ทันที
มีบัญชีอยู่แล้ว? Log In
สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป แม้จะไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน แต่ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงในการเป็นโรคงูสวัดก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคไต รวมถึงผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19 มีความเสี่ยงในการเป็นงูสวัดเพิ่มขึ้น
ผู้ที่เคยเป็นโรคงูสวัด มีโอกาสเป็นซ้ำประมาณ ร้อยละ 6.2
สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องเนื่องจากโรคหรือการรักษา ควรฉีดวัคซีนชนิด recombinant zoster vaccine จำนวน 2 เข็ม เนื่องจากอายุที่มากขึ้นและภูมิคุ้มกันที่บกพร่องจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคงูสวัด รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคงูสวัดด้วย
โทรเพื่อทำการนัดหมาย
ติดต่อสอบถาม
นัดหมายแพทย์
โรคงูสวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ (varicella-zoster virus) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกันกับเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคสุกใส เมื่อผู้ป่วยหายจากโรคสุกใสแล้ว เชื้อไวรัสจะค่อยๆ เคลื่อนตัวตามแนวเส้นประสาทเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกาย แต่เมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานลดลง เชื้อไวรัสที่แฝงตัวอยู่ก็จะแบ่งตัว ทำให้กำเริบและก่อให้เกิดโรคงูสวัดขึ้นมาได้
โรคงูสวัด
ในปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุหรือสูงวัยแล้ว สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปแล้วสิ่งที่ต้องระวังคือ มีภูมิคุ้มกันที่ค่อยๆถดถอยลงไปตามวัย ในกลุ่มโรคที่สำคัญคือโรคติดเชื้อ โรคงูสวัดเป็นภัยเงียบเนื่องจากจะไม่รู้ตัวก่อนที่เป็นโรคนี้
ปัจจุบันนี้ โรคงูสวัดสามารถพบได้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น หากภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง โอกาสในการเป็นโรคนี้ยิ่งมีมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ผู้ใหญ่ในช่วงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด... เพื่อประสิทธิภาพที่มากกว่าในการป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงของการเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้