bih.button.backtotop.text

สุขภาพดีอยู่ที่การป้องกัน

27 มกราคม 2550

ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก . . . รากฐานอยู่ที่จิตใจ

 
แม้วัยจะล่วง 8 ทศวรรษไปแล้วหลายปี แต่สำหรับศาสตราจารย์ ระพี สาคริกแล้ว สุขภาพไม่ได้เป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่อย่างใด ท่านยังคงทำงานเขียนหนังสือ  สั่งสอน ลูกศิษย์ เรียนรู้ เรื่องราวใหม่ ๆ และสังเกตความเป็นไปในสังคมได้ เหมือนเช่นที่เคยทำมาตลอด


จิตใจสบาย ร่างกายเป็นสุข

หลายคนอาจสงสัยว่าในวัยนี้ อาจารย์ยังทำงาน เล่นดนตรี ร่วมงานสัมมนา วาดภาพ  ถ่ายภาพ และอีกหลายกิจกรรมได้อย่างไร อาจารย์ จึงเล่าให้ฟังว่า “จิตใจเป็นรากฐานของทุกอย่าง ผมไม่มีเคล็ดลับอะไรเลย ทุกอย่างอยู่ที่ใจเท่านั้น เราต้องรู้จักตัวเองซื่อสัตย์ต่อตัวเอง แต่อย่า ทำอะไรเพื่อตัวเองมากจนเกินไป ต้องนึกถึงคน อื่น ๆ ให้มาก ๆ

  
การรู้จักตัวเองทำให้จิตใจเราเข้มแข็ง พึ่งตัวเองได้ ทีนี้ก็ไม่มีอะไรยาก อีกต่อไป ในเรื่องการดูแลสุขภาพ ผมแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ  ระยะสั้น อย่างไปหาหมอตามเวลาตรงนี้คือความจำเป็นที่เราต้องไม่ละเลย ส่วนในระยะยาวก็ กลับมาที่จิตใจอีก คือการทำใจให้สบายอย่าไปยึดอะไรถืออะไร พอจิตเราสบายก็กลายเป็นพลังบวกให้กับตัวเรา อย่างเรื่องอาหารการกินนี่ ผมกินหมดทุกอย่างนะแต่กินเข้าไปแล้วใช้หมดเลยไม่ มีปัญหา ผมไม่เคยกะเกณฑ์ว่าอันนี้กิน อันนี้ไม่กิน ผลลัพธ์ก็คือเราไม่เกิดความเครียดไม่รู้สึกว่าต้องฝืนต้องบังคับอะไร แทนที่จะต้องมากะเกณฑ์เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เราเอาเวลามาทำงานสร้างสรรค์ ประโยชน์ให้สังคมดีกว่า

สำหรับผมแล้ว การทำงานไม่ได้เป็นการทำงานอย่างเดียวแต่ยังเป็นการพักผ่อนเป็นการออกกำลัง กายเป็นการใช้เวลาว่าง เป็น งานอดิเรกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมและคนรุ่นลูกหลานด้วย  พูดง่าย ๆก็คือผมไม่ได้ไปแยกมันผมทำงานมาตลอดโดยไม่ได้คิดว่าขาดหรือพร่อง อะไรไปแม้จะหนักแต่เราก็มีความสุข.


เตือนตนด้วยสติ

จิตใจที่เข้มแข็งและมีความสุขสงบเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพร่าง กายก็จริง แต่สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือการมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ “เดี๋ยวนี้ มีของกินและสิ่งล่อตาล่อใจต่าง ๆ ให้เลือกเยอะเราต้องอย่าหลงไปกับกระแส คน เราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ใช้สติเตือนตัวเองไว้เสมอ ขอเพียงรู้จักตัว เองอย่างถ่องแท้เราก็ชนะตัวเองได้ไม่ยาก ปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นเพราะคนเรามี จิตใจอ่อนแอ ไม่เห็นความสำคัญของการบังคับตัวเองถ้าเรารู้ทันตัวเองความอยาก เราก็จะลดลงเราจะมีเหตุผลมากขึ้น ทั้งหมดนี้จะส่งผลไปถึงการกินอยู่จะกินก็ รู้ว่าเท่าไรจึงพอไม่ได้กินด้วยความโลภ

การเตือนตัวเองอยู่เสมอนี่ช่วยได้มากจริง ๆ มีคนถามผมว่าทำไมความจำยังดี อยู่ คำตอบคงเป็นเพราะเรามีสติเสมอและไม่ดิ้นรนเอาอะไรมาสะสมไว้ ปล่อย ทุกอย่างไปตามธรรมชาติ พยายามพึ่งพาตัวเองใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้น้อย ลงและอย่าหยุดเรียนรู้”อาจารย์ระพีกล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ
   

 คุณแอนดรูว์ แม็คบีน ... กำหนดเป้าหมาย ท้าทายตัวเอง

 
วันใหม่ของคุณแอนดรูว์ แม็คบีน รองประธานอาวุโส  โมบาย บิซิเนส บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เริ่มขึ้นตั้งแต่ เช้าตรู่ประมาณ 6 นาฬิกา กับการออกกำลังกาย ภายใต้การดูแลของ เทรนเนอร์มืออาชีพ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เขา ทำอย่างสม่ำเสมอมาเป็น เวลา เกือบ 20 ปีแล้ว


เริ่มจากความมีวินัย

“สำหรับผม การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นปัจจัย สำคัญที่ ช่วยให้ผมมีสุขภาพดี บางคนอาจจะบอกว่าไม่มี เวลา แต่ถ้าคุณรวมเอา การออกกำลังกายเข้าไปในตาราง เวลาของคุณแล้วละก็ คุณจะไม่มีเวลา ได้อย่างไร” คุณแอนดรูว์เล่าอย่างอารมณ์ดี

  
การบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายสำหรับบางคนนั้นถือว่า ท้าทายแล้ว แต่การทำให้เป็นนิสัย เป็นกิจวัตรในระยะยาว นั้นกลับท้าทายยิ่งกว่า “คุณต้องมีวินัยในตัวเอง และต้อง มองว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ ละเลยไม่ได้ ไม่ต่าง กับการที่คุณมีประชุมตอนเช้าอยู่แล้ว ฉะนั้นเวลา จะนัด ใครใหม่คุณก็ต้องเลี่ยงเวลานั้นไป การออกกำลังกายก็เช่น
เดียวกัน ผมจัดให้เป็นนัดสำคัญที่จะขาดไม่ได้เพราะฉะนั้น เมื่อจัดสรรเวลาในการ ทำอะไรต่อไป การออกกำลังก็ต้องถูก รวมอยู่ด้วยเสมอ

ผมเลือกให้การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมแรกของวัน  เพราะผม ไม่อยากให้ตัวเองมีข้ออ้างในการไม่ออกกำลังกาย อีก เมื่อเวลาผ่านไป คุณอาจจะคิดว่าคุณต้องทำสิ่งนั้นก่อน  สิ่งนี้พลาดไม่ได้ การออกกำลังกาย ก็จะกลายเป็นเรื่องรอง ๆ  ไป แต่ถ้าคุณทำตั้งแต่เช้า มันก็เสร็จไป จากนั้นคุณก็ทำงาน และสนุกกับชีวิตในแต่ละวันได้

การมีเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำอย่างถูกต้องมีประโยชน์ มาก สำหรับผม เพราะนอกจากจะลดอาการบาดเจ็บแล้ว  ยังเป็นการบังคับ ตัวเองทางอ้อมด้วย เวลาออกกำลังกาย  ผมเน้นสร้างความแข็งแรงให้ ลำตัว กระดูกสันหลัง กล้ามเ นื้อหลังและท้อง ซึ่งถือว่าเป็นแกนของ ร่างกาย คุณเชื่อไหม ว่าผมสูงขึ้นอีกหนึ่งเซ็นติเมตร และมีปัญหาเรื่องปวดหลัง น้อยมาก ตรงนี้เป็นผลพลอยได้จากการทำท่าทาง
ที่ถูกต้อง นั่นเอง” คุณแอนดรูว์เล่า

การรู้จักตัวเองทำให้จิตใจเราเข้มแข็ง พึ่งตัวเองได้ ทีนี้ก็ไม่มีอะไร ยากอีกต่อไป ในเรื่องการดูแลสุขภาพ ผมแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ  ระยะสั้น อย่างไปหาหมอตามเวลา ตรงนี้คือความจำเป็นที่เราต้อง ไม่ละเลย ส่วนใน ระยะยาว ก็กลับมาที่จิตใจอีก คือการทำใจให้สบาย  อย่าไปยึดอะไรถืออะไร พอจิตเราสบาย ก็กลายเป็นพลังบวกให้กับ ตัวเรา


ทำอย่างมีเป้าหมาย

“ผมจำได้ว่า ตอนที่เริ่มฝึกออกกำลังกาย 3 เดือนแรกดูจะ เป็น เรื่องยากลำบากมาก ผมบอกตัวเองว่าแค่ลงมือทำ  ไม่ต้องไปคิดเรื่อง ระยะเวลา เคล็ดลับของผมคือ ตั้งเป้า หมายให้ตัวเอง อะไรก็ได้ แล้วทำไป สิ่งนี้จะช่วยคุณได้ มากโดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะ เริ่ม คุ้นเคยและมีความสุขที่คุณได้ทำ คุณจะรู้สึกดี มี ความมั่นใจ สิ่งนี้จะ เกิดขึ้นเมื่อคุณได้ลงมือทำอะไร บางอย่างเพื่อตัวเองอย่างแท้จริง ตอนนี้ผมมีเป้าหมายใหม่ คือการเข้าร่วมใน  The Impossible Race หรือการแข่งขันวิ่ง มินิมาราธอนระยะทาง 10 กิโลเมตรภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมของบริษัทฯ ตอนนี้ ทุกคนเลยกระตือรือร้น กันน่าดู ต่างคนต่างพยายาม ฟิตร่างกายเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันใน ต้นปีหน้า  สิ่งเดียวที่ผมบอกตัวเองตลอดเวลาที่ผมซ้อมเพื่อ วิ่งในเดือน กุมภาพันธ์ปีหน้าคือ ‘ต้องทำให้ได้’ กุศโลบายตรงนี้มีอยู่ว่า การที่คุณทำ ในสิ่งที่ดูเหมือนจะ เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ สิ่งนั้นย่อมเปลี่ยนชีวิตคุณ” คุณแอนดรูว์บอกว่า เขารู้สึกว่าร่างกายตัวเองฟิตกว่าเมื่อ ตอนอายุ 20 ปลาย ๆ เสียอีก ยังไม่นับรวมความมั่นใจ  พลังในการทำงานและ ภาวะแห่งความสมบูรณ์แข็งแรง ของร่างกาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ‘สุขภาพดี’ ที่รู้สึก ได้ทุกวัน
   

คุณวิกรม กรมดิษฐ์ ... อย่าหลอกตัวเอง

 
สำหรับคุณวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจผู้ก่อตั้งและประธาน เจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  (มหาชน) สุขภาพที่ดีเกิดขึ้น จากปัจจัยหลาย ๆ  ประการประกอบกัน แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดเห็นจะเป็น ความเข้าใจในครรลองตามธรรมชาติของร่างกาย


ฟังเสียงจากร่างกาย

“ผมว่าการมีสุขภาพดีนั้นอยู่ที่ความเข้าใจ” คุณวิกรม เริ่มบทสนทนา “ผมเชื่อในสิ่งที่ร่างกายบอกเสมอ  พยายามไม่ฝืนเพราะร่างกายจะบอก เราเองว่าตอนนี้ต้อง ทำอะไร เราก็แค่ทำตามมัน หิวก็รับประทานอาหาร  ง่วงก็ เข้านอน เหนื่อยก็หยุดพัก เป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ถ้า คุณไม่เข้าใจ แล้วคอย ฝืนร่างกาย มันก็ปรับตัวได้ แต่ ถามว่าดีหรือไม่ ตัวคุณก็บอกได้เอง ช่วงหลัง ๆ นี่ผมลดการทำงานลงไปเยอะเลย เพราะ สุขภาพเรา มันไม่ไหว ถึงเราจะฝืนไป สมองก็ไม่แล่น  วิธีแก้ของผม คือไปพักผ่อนแล้ว ค่อยกลับมาทำงาน  ถ้าอยู่กรุงเทพฯ กิจวัตรประจำวันก็จะเป็นไปตาม ตาราง ที่คนจัดไว้ให้ แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัด กิจวัตรของผมจะขึ้นอยู่กับนาฬิกาชีวิต อย่างแท้จริง  เพลียเมื่อไรก็นอน พอนอนอิ่มก็จะสดชื่น มีพลัง ในการทำงาน ผมเลยลุกขึ้นมาเขียนหนังสือตอนกลาง คืนได้ โดยเฉพาะช่วงหลังเที่ยงคืน”


ไม่หลอกตัวเอง

หนทางที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพดีและมีชีวิตยืนยาว  นอกจากต้อง อาศัยความรู้ความเข้าใจแล้ว คุณวิกรม เสริมอีกว่าอยู่ที่การดูแลตัวเอง อย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน  “มนุษย์เรา บางทีก็มียีนก่อโรคติดมากับตัว แต่ถ้ามีการ ดูแลที่ถูกต้องไม่ว่าจะในเรื่องของอาหาร สิ่งแวดล้อม  รวมทั้ง การรักษาพยาบาล ก็น่าที่จะมีสุขภาพดีและ อายุยืนยาวได้ ผมถึงบอกว่า เป็นเรื่องของความรู้และ ความเข้าใจ ถ้าเราปฏิบัติตัวเองอย่างถูกต้อง เช่น  เรื่องการรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม อากาศ  สิ่งแวดล้อม และการ พบหมอ เราก็ใช้ชีวิตได้อย่าง มีคุณภาพ แต่ถ้าเราไม่เข้าใจ แล้วชอบหลอกตัวเอง โกงตัวเอง อยู่เรื่อย สุขภาพ คงดีไม่ได้ อย่างบางคนพอจะไปหา หมอก็จะรักษา ดูแลตัวเองอย่างดี เพื่อให้ตัวเลขออก มาดี อย่างนี้เท่ากับว่าเราหลอกตัวเอง เราต้องไม่ หลอก ตัวเอง เรามีเป้าหมายอย่างไร แล้วเรารู้ว่า หนทางไปสู่เป้าหมายนั้นมี อะไรบ้าง เราทำให้มัน ถูกต้อง เราก็ประสบความสำเร็จจนได้”
   
 

พญ. จรรย์กนก เกื้อกูลวงศ์ ... มีความสุขกับชีวิต

 
หากคุณจินตนาการว่า ผู้ที่เป็นแพทย์จะต้องดูเป็นคน เคร่งเครียด จริงจัง ยิ้มยาก ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับตำรับ ตำรา พญ. จรรย์กนก เกื้อกูลวงศ์ เจ้าของประกาศนียบัตร
รับรองจากอเมริกาด้านโรคปอดการนอนหลับ และการดูแลผู้ป่วยวิกฤติจะต้องทำให้คุณเปลี่ยนความคิด


ออกกำลังแล้วจะดีเอง

ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณหมอต้องทำเสมอทุก ๆ วัน “หลังเลิกงานก็ต้องไปออกกำลังกาย ไม่อย่างนั้นจะนอนไม่หลับ บางทีเรารู้สึกเพลียมาก ง่วงสุดๆ แต่นั่นไม่ใช่อาการทางร่างกาย แต่เกิดจากการที่สมองเราล้าต่างหาก การออกกำลัง
กายอย่างสม่ำเสมอสำหรับหมอก็เป็นการพักผ่อนสมองนั่นเอง พออกกำลังกายไปสักพัก จากที่ล้า ๆ อยู่ ก็สดชื่นกระฉับกระเฉงขึ้นมา ก็เป็นความสุขอีกแบบนะ”พญ. จรรย์กนกเล่า

ส่วนในเรื่องของอาหารการกิน คุณหมอมีหลักที่น่าสนใจอยู่ว่า“หมอจะเลือกรับประทานแต่ของอร่อยเท่านั้น เนื่องจากหมอเป็นคนชอบรับประทานแต่ไม่ได้ทานพร่ำเพรื่อนะ เพียงแต่เราต้องเลือก เลือกรับประทานของอร่อยและไม่ทำร้ายสุขภาพจนเกินไป เรื่องอะไรเราจะต้องไปเปลืองท้องกับของไร้สาระที่ไม่อร่อย อย่างของหวานหมอก็รับประทานนะแต่ของหวานมันก็ไม่ได้อร่อยทุกอย่าง สู้เก็บท้องไว้รับประทานของอร่อยที่เราชอบไม่ดีกว่าหรือ หมอไม่งดรับประทานเลยเพราะการอดนั้นมันไม่ดีต่อสุขภาพเมื่อเรารู้จักเลือกรับประทาน แล้วเราออกกำลังกายให้เพียงพอสุขภาพเราก็ไม่เสีย”


ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

ความสุขอีกประการหนึ่งของคุณหมอ คือ การได้เดินทางไปผจญภัยในโลกกว้าง ล่าสุด คุณหมอก็เพิ่งกลับจากการร่วมเดินทางไปปฎิบัติภารกิจในการดูแลรักษาพยาบาลแก่คณะคนไทยที่เข้าร่วม “ปฏิบัติการเกียรติยศสู่ยอดเอเวอเรสต์ ณ ประเทศเนปาล” ซึ่งคุณหมอบอกว่าแม้จะเป็นการไปทำงาน แต่ก็ตรงกับกับวิสัยรักการผจญภัยของคุณหมอเป็นอย่างมาก

“หมอว่าคนเราทำงานหนักแล้วก็ควรให้ความสุขกับชีวิตตามสมควร” คุณหมอให้ความเห็น “หมออยากไปเที่ยวไหนก็ไป ไม่ใช่ว่าเราทำแต่งาน ๆ สุดท้ายเงินทองที่เก็บไว้ก็ต้องเอามารักษาตัว เวลาทำงานเราก็ทำเต็มที่นะ ดังนั้นเมื่อได้พักผ่อน เราก็เต็มที่เช่นกัน ช่วงวันหยุดหมอมีความสุขมากทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยให้เหงื่อมันออก ไปเที่ยว เกือบทุกเดือนก็ว่าได้ กลับมาจากเอเวอร์เรสต์ก็ไปดำน้ำต่อ ปเดินป่า ขี่จักรยานเสือภูเขา ร่วมกิจกรรมที่ใช้ต้องกำลังกาย ทำสิ่งที่เราชอบ ใจเราก็เป็นสุข เมื่อใจเราเป็นสุขทุกอย่างก็จะดีเอง

   

คุณกัญญารัตน์ พลาดิศัย ...ขาดไม่ได้คือความสมดุล

 
คุณแม่ยังสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีตามหน้านิตยสารชั้นนำ เจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ Sorbet ที่เธอออกแบบเอง บอกว่าการจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพนั้นดีแน่ แต่ขอให้ยึดหลักความพอดี


เริ่มจากการปรับตัว

ก่อนจะลงตัวกับชีวิตที่สมดุลในแบบทุกวันนี้ได้ คุณกัญญารัตน์ต้องปรับตัวหลายประการ “สมัยเป็นวัยรุ่น เอ๋เคยไม่ทานผักเลย น้ำก็ดื่มนิดเดียว แม้สุขภาพโดยรวมจะดี ไม่มีอะไรผิดปกติก็ตาม แต่จะมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายมาก เราเลยต้องปรับตัว และพยายามทานผัก ทานน้ำให้มากขึ้น

เอ๋ไม่เคยทราบเลยว่าตัวเองเป็นโรคโลหิตจาง มาทราบก็ตอนที่ตรวจร่างกายเพราะพยายามจะมีลูกคนที่สองแต่ไม่เคยสำเร็จ ตอนนี้ก็พยายามดูแลตัวเองอยู่ คุณหมอให้ทานวิตามินเสริม ยาบำรุงเลือดต่าง ๆตอนนี้เราอายุมากขึ้น ร่างกายก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากเดิมเวลานอนดึก อดนอน ก็ไม่เป็นไร แต่เดี๋ยวนี้ถ้าอดนอนจะเห็นผลลัพธ์ทันที

วันไหนที่นอนดึกแล้วตื่นเช้าเพื่อไปส่งลูกที่โรงเรียน พอกลับบ้านมาเอ๋ก็จะพยายามนอนต่อแม้จะทราบว่ามันชดเชยกันไม่ได้ แต่นี่คือการปรับตัวให้เข้าวิถีชีวิตของเรา เอ๋สามารถทำงาน ใช้เวลากับลูก พักผ่อน พบปะกับเพื่อน ๆ ดูแลสุขภาพได้โดยที่ไม่รู้สึกว่าต้องสูญเสียอะไรไป”


สมดุลคือความสุข

“ต้องยอมรับว่าการได้รับประทานอาหารที่เราชอบก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง เอ๋ชอบมันฝรั่งทอดมาก แม้จะไม่ดีต่อสุขภาพ เอ๋ก็อนุญาตให้ตัวเองทานได้ในบางครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ทิ้งเรื่องของความสมดุล
โชคดีที่เอ๋ชอบผักมาก ทานหมดทุกอย่าง เวลาไปทานข้าวกับเพื่อน ๆ ใครไม่ทานผักอะไรก็ตักมาให้เรา เราก็ทานหมด” คุณกัญญารัตน์เล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เอ๋รู้สึกว่ามันออกจะทรมานเกินไปถ้าเราจะต้องกะเกณฑ์เรื่องการรับประทานขนาดนั้น เราทำอะไรที่เราพอทำได้ดีกว่าไหม ทุกวันนี้เอ๋ไปซื้อของเอง เลือกอย่างดีที่สุด ผักก็เลือกผักปลอดสาร ที่บ้านเราก็ทานข้าวกล้อง น้ำมันเราก็ใช้น้ำมันมะกอก เอ๋มองว่าเรายอมจ่ายตรงนี้ ดีกว่าที่จะมาต้องจ่ายเพื่อรักษาความเจ็บป่วย เพราะเมื่อเราป่วย 
มันไม่ใช่แค่ว่าเราต้องจ่ายเงินอย่างเดียว เราเสียอย่างอื่นอีกมากมาย คุณภาพชีวิตการงานและความสุขในชีวิตอีกหลายอย่าง ซึ่งเอ๋ว่า ทั้งหมดนี้ก็น่าจะเรียกว่าเป็นการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนนะคะ” เธอสรุปทิ้งท้าย

รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

Related Health Blogs