You're been inactive for a while. For security reason, we'll automatically sign you out from our website. Please Click "Login" to extend your session
ตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วย ผลการตรวจ กำหนดการนัด และอื่นๆ
ขณะนี้ ไม่สามารถเข้าสู่ระบบด้วยเบอร์โทรศัพท์เป็นการชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก
ยังไม่มีบัญชี? Create Account
ติดตามข่าวสารล่าสุด และ นัดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกได้ทันที
มีบัญชีอยู่แล้ว? Log In
จิตใจสบาย ร่างกายเป็นสุข หลายคนอาจสงสัยว่าในวัยนี้ อาจารย์ยังทำงาน เล่นดนตรี ร่วมงานสัมมนา วาดภาพ ถ่ายภาพ และอีกหลายกิจกรรมได้อย่างไร อาจารย์ จึงเล่าให้ฟังว่า “จิตใจเป็นรากฐานของทุกอย่าง ผมไม่มีเคล็ดลับอะไรเลย ทุกอย่างอยู่ที่ใจเท่านั้น เราต้องรู้จักตัวเองซื่อสัตย์ต่อตัวเอง แต่อย่า ทำอะไรเพื่อตัวเองมากจนเกินไป ต้องนึกถึงคน อื่น ๆ ให้มาก ๆ
เริ่มจากความมีวินัย “สำหรับผม การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นปัจจัย สำคัญที่ ช่วยให้ผมมีสุขภาพดี บางคนอาจจะบอกว่าไม่มี เวลา แต่ถ้าคุณรวมเอา การออกกำลังกายเข้าไปในตาราง เวลาของคุณแล้วละก็ คุณจะไม่มีเวลา ได้อย่างไร” คุณแอนดรูว์เล่าอย่างอารมณ์ดี
ฟังเสียงจากร่างกาย “ผมว่าการมีสุขภาพดีนั้นอยู่ที่ความเข้าใจ” คุณวิกรม เริ่มบทสนทนา “ผมเชื่อในสิ่งที่ร่างกายบอกเสมอ พยายามไม่ฝืนเพราะร่างกายจะบอก เราเองว่าตอนนี้ต้อง ทำอะไร เราก็แค่ทำตามมัน หิวก็รับประทานอาหาร ง่วงก็ เข้านอน เหนื่อยก็หยุดพัก เป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ถ้า คุณไม่เข้าใจ แล้วคอย ฝืนร่างกาย มันก็ปรับตัวได้ แต่ ถามว่าดีหรือไม่ ตัวคุณก็บอกได้เอง ช่วงหลัง ๆ นี่ผมลดการทำงานลงไปเยอะเลย เพราะ สุขภาพเรา มันไม่ไหว ถึงเราจะฝืนไป สมองก็ไม่แล่น วิธีแก้ของผม คือไปพักผ่อนแล้ว ค่อยกลับมาทำงาน ถ้าอยู่กรุงเทพฯ กิจวัตรประจำวันก็จะเป็นไปตาม ตาราง ที่คนจัดไว้ให้ แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัด กิจวัตรของผมจะขึ้นอยู่กับนาฬิกาชีวิต อย่างแท้จริง เพลียเมื่อไรก็นอน พอนอนอิ่มก็จะสดชื่น มีพลัง ในการทำงาน ผมเลยลุกขึ้นมาเขียนหนังสือตอนกลาง คืนได้ โดยเฉพาะช่วงหลังเที่ยงคืน”
ออกกำลังแล้วจะดีเอง ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณหมอต้องทำเสมอทุก ๆ วัน “หลังเลิกงานก็ต้องไปออกกำลังกาย ไม่อย่างนั้นจะนอนไม่หลับ บางทีเรารู้สึกเพลียมาก ง่วงสุดๆ แต่นั่นไม่ใช่อาการทางร่างกาย แต่เกิดจากการที่สมองเราล้าต่างหาก การออกกำลัง กายอย่างสม่ำเสมอสำหรับหมอก็เป็นการพักผ่อนสมองนั่นเอง พออกกำลังกายไปสักพัก จากที่ล้า ๆ อยู่ ก็สดชื่นกระฉับกระเฉงขึ้นมา ก็เป็นความสุขอีกแบบนะ”พญ. จรรย์กนกเล่า
ส่วนในเรื่องของอาหารการกิน คุณหมอมีหลักที่น่าสนใจอยู่ว่า“หมอจะเลือกรับประทานแต่ของอร่อยเท่านั้น เนื่องจากหมอเป็นคนชอบรับประทานแต่ไม่ได้ทานพร่ำเพรื่อนะ เพียงแต่เราต้องเลือก เลือกรับประทานของอร่อยและไม่ทำร้ายสุขภาพจนเกินไป เรื่องอะไรเราจะต้องไปเปลืองท้องกับของไร้สาระที่ไม่อร่อย อย่างของหวานหมอก็รับประทานนะแต่ของหวานมันก็ไม่ได้อร่อยทุกอย่าง สู้เก็บท้องไว้รับประทานของอร่อยที่เราชอบไม่ดีกว่าหรือ หมอไม่งดรับประทานเลยเพราะการอดนั้นมันไม่ดีต่อสุขภาพเมื่อเรารู้จักเลือกรับประทาน แล้วเราออกกำลังกายให้เพียงพอสุขภาพเราก็ไม่เสีย”
ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ความสุขอีกประการหนึ่งของคุณหมอ คือ การได้เดินทางไปผจญภัยในโลกกว้าง ล่าสุด คุณหมอก็เพิ่งกลับจากการร่วมเดินทางไปปฎิบัติภารกิจในการดูแลรักษาพยาบาลแก่คณะคนไทยที่เข้าร่วม “ปฏิบัติการเกียรติยศสู่ยอดเอเวอเรสต์ ณ ประเทศเนปาล” ซึ่งคุณหมอบอกว่าแม้จะเป็นการไปทำงาน แต่ก็ตรงกับกับวิสัยรักการผจญภัยของคุณหมอเป็นอย่างมาก
“หมอว่าคนเราทำงานหนักแล้วก็ควรให้ความสุขกับชีวิตตามสมควร” คุณหมอให้ความเห็น “หมออยากไปเที่ยวไหนก็ไป ไม่ใช่ว่าเราทำแต่งาน ๆ สุดท้ายเงินทองที่เก็บไว้ก็ต้องเอามารักษาตัว เวลาทำงานเราก็ทำเต็มที่นะ ดังนั้นเมื่อได้พักผ่อน เราก็เต็มที่เช่นกัน ช่วงวันหยุดหมอมีความสุขมากทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยให้เหงื่อมันออก ไปเที่ยว เกือบทุกเดือนก็ว่าได้ กลับมาจากเอเวอร์เรสต์ก็ไปดำน้ำต่อ ปเดินป่า ขี่จักรยานเสือภูเขา ร่วมกิจกรรมที่ใช้ต้องกำลังกาย ทำสิ่งที่เราชอบ ใจเราก็เป็นสุข เมื่อใจเราเป็นสุขทุกอย่างก็จะดีเอง
เริ่มจากการปรับตัว ก่อนจะลงตัวกับชีวิตที่สมดุลในแบบทุกวันนี้ได้ คุณกัญญารัตน์ต้องปรับตัวหลายประการ “สมัยเป็นวัยรุ่น เอ๋เคยไม่ทานผักเลย น้ำก็ดื่มนิดเดียว แม้สุขภาพโดยรวมจะดี ไม่มีอะไรผิดปกติก็ตาม แต่จะมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายมาก เราเลยต้องปรับตัว และพยายามทานผัก ทานน้ำให้มากขึ้น
เอ๋ไม่เคยทราบเลยว่าตัวเองเป็นโรคโลหิตจาง มาทราบก็ตอนที่ตรวจร่างกายเพราะพยายามจะมีลูกคนที่สองแต่ไม่เคยสำเร็จ ตอนนี้ก็พยายามดูแลตัวเองอยู่ คุณหมอให้ทานวิตามินเสริม ยาบำรุงเลือดต่าง ๆตอนนี้เราอายุมากขึ้น ร่างกายก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากเดิมเวลานอนดึก อดนอน ก็ไม่เป็นไร แต่เดี๋ยวนี้ถ้าอดนอนจะเห็นผลลัพธ์ทันที วันไหนที่นอนดึกแล้วตื่นเช้าเพื่อไปส่งลูกที่โรงเรียน พอกลับบ้านมาเอ๋ก็จะพยายามนอนต่อแม้จะทราบว่ามันชดเชยกันไม่ได้ แต่นี่คือการปรับตัวให้เข้าวิถีชีวิตของเรา เอ๋สามารถทำงาน ใช้เวลากับลูก พักผ่อน พบปะกับเพื่อน ๆ ดูแลสุขภาพได้โดยที่ไม่รู้สึกว่าต้องสูญเสียอะไรไป”
สมดุลคือความสุข “ต้องยอมรับว่าการได้รับประทานอาหารที่เราชอบก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง เอ๋ชอบมันฝรั่งทอดมาก แม้จะไม่ดีต่อสุขภาพ เอ๋ก็อนุญาตให้ตัวเองทานได้ในบางครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ทิ้งเรื่องของความสมดุล โชคดีที่เอ๋ชอบผักมาก ทานหมดทุกอย่าง เวลาไปทานข้าวกับเพื่อน ๆ ใครไม่ทานผักอะไรก็ตักมาให้เรา เราก็ทานหมด” คุณกัญญารัตน์เล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เอ๋รู้สึกว่ามันออกจะทรมานเกินไปถ้าเราจะต้องกะเกณฑ์เรื่องการรับประทานขนาดนั้น เราทำอะไรที่เราพอทำได้ดีกว่าไหม ทุกวันนี้เอ๋ไปซื้อของเอง เลือกอย่างดีที่สุด ผักก็เลือกผักปลอดสาร ที่บ้านเราก็ทานข้าวกล้อง น้ำมันเราก็ใช้น้ำมันมะกอก เอ๋มองว่าเรายอมจ่ายตรงนี้ ดีกว่าที่จะมาต้องจ่ายเพื่อรักษาความเจ็บป่วย เพราะเมื่อเราป่วย มันไม่ใช่แค่ว่าเราต้องจ่ายเงินอย่างเดียว เราเสียอย่างอื่นอีกมากมาย คุณภาพชีวิตการงานและความสุขในชีวิตอีกหลายอย่าง ซึ่งเอ๋ว่า ทั้งหมดนี้ก็น่าจะเรียกว่าเป็นการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนนะคะ” เธอสรุปทิ้งท้าย
โทรเพื่อทำการนัดหมาย
ติดต่อสอบถาม
นัดหมายแพทย์