ตรวจ HPV DNA ด้วยตัวเอง ตรวจง่าย รู้ไว ป้องกันมะเร็งปากมดลูก
ทำไมการตรวจ HPV DNA ถึงสำคัญ?
มะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงไทย โดยมีสาเหตุหลักจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ชนิดความเสี่ยงสูง การตรวจหาเชื้อ HPV DNA ช่วยให้ค้นพบการติดเชื้อได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แม้ยังไม่ปรากฏอาการ ทำให้สามารถเฝ้าระวังและรักษาได้ทันท่วงที
HPV DNA Self-test คืออะไร?
HPV DNA Self-test คือการตรวจหาเชื้อ HPV ที่ผู้หญิงสามารถ
เก็บตัวอย่างเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเอง ได้อย่างสะดวก ไม่เจ็บ และไม่ต้องอาย จากนั้นส่งตัวอย่างไปตรวจในห้องปฏิบัติการด้วยเทคนิคทางชีวโมเลกุลที่มีความแม่นยำสูง ปัจจุบันได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
ข้อดีของ HPV DNA Self-test
- สะดวกและเป็นส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องตรวจภายในที่โรงพยาบาล
- ลดความกังวลและความอาย โดยเฉพาะในผู้ที่เลี่ยงการตรวจ Pap smear
- ช่วยตรวจพบเชื้อ HPV ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพิ่มโอกาสป้องกันและรักษามะเร็งปากมดลูก
ใครควรตรวจ?
- ผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่ไม่สะดวกมาตรวจภายในที่โรงพยาบาล
ไม่เหมาะสำหรับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องน้อย มีเลือดออกผิดปกติ หรือมีตกขาวผิดปกติ ควรไปพบแพทย์โดยตรง
- หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วง 3 เดือนหลังคลอดบุตร
- ผู้ที่สงสัยโรคอื่น ๆ เนื่องจากการตรวจ HPV DNA Self-test ใช้สำหรับตรวจเชื้อ HPV เท่านั้น ไม่สามารถตรวจหาเซลล์มะเร็ง หรือวินิจฉัยโรคทางนรีเวชอื่นๆ ได้
การแปลผลตรวจ
- ผลบวก (Positive HPV16/18): พบการติดเชื้อ HPV ชนิดความเสี่ยงสูง ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น Pap smear หรือ Colposcopy
- ผลบวก (Positive other HPV): พบการติดเชื้อ HPV ชนิดอื่น ๆ ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม
- ผลลบ (Negative): ไม่พบเชื้อ HPV แนะนำให้ตรวจซ้ำตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนดทุก 3–5 ปี
- Invalid: ผลการตรวจไม่สามารถรายงานได้ (Invalid result) เนื่องจากตัวอย่างที่เก็บมีจำนวนเซลล์จากช่องคลอดหรือปากมดลูกไม่เพียงพอ
การเตรียมตัวก่อนตรวจ HPV DNA Self-test
เพื่อให้ผลการตรวจมีความถูกต้อง ควรปฏิบัติดังนี้:
- งดการตรวจภายในอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเก็บตัวอย่าง
- งดใช้ผ้าอนามัยชนิดสอด ครีม หรือยาที่ใช้ทางช่องคลอดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- ห้ามสวนล้างหรือทำความสะอาดภายในช่องคลอด 48 ชั่วโมงก่อนตรวจ
- งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนตรวจ
- หลีกเลี่ยงการตรวจในช่วงมีประจำเดือน
- ไม่ควรเก็บตัวอย่างในระหว่างตั้งครรภ์หรือภายใน 3 เดือนหลังคลอด
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- การตรวจ HPV DNA Self-test ไม่ได้แทนที่ Pap smear แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงการตรวจคัดกรอง
- แม้ไม่พบเชื้อ HPV ก็ควรตรวจสุขภาพสตรีเป็นประจำ และพิจารณาการ ฉีดวัคซีน HPV เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุม
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
แก้ไขล่าสุด: 02 กันยายน 2568