bih.button.backtotop.text

รพ.บำรุงราษฎร์ประกาศจับมือกับโรงพยาบาลพันธมิตรทุกภูมิภาค 36 แห่งของเมืองไทย

21 กันยายน 2559

ก้าวสำคัญของ รพ.บำรุงราษฎร์กับโรงพยาบาลพันธมิตรทุกภูมิภาค 36 แห่งของเมืองไทย ในการประสานความร่วมมือเพื่อยกระดับคุณภาพการรักษา และสร้างความเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนร่วมกัน

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กรุงเทพฯ – 21 กันยายน 2559 – โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับโรงพยาบาลชั้นนำในทุกภูมิภาค 36 แห่ง รวมกลุ่มกันเป็นโรงพยาบาลพันธมิตรโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยร่วมกันอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย และเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือในอนาคต โดยมีโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ เป็นโต้โผหลักของความร่วมมือที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของเมืองไทย
 
การรักษาในระดับทุติยภูมิ และตติยภูมิ
 
ผู้รับบริการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุด
 
ผู้อำนวยการด้านบริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ ถือเป็นการผนึกกำลังเพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีการรักษาผู้ป่วยที่มีความซับซ้อน หรือการรักษาในระดับทุติยภูมิ และตติยภูมิ และนอกจากนี้ จะมีการร่วมมือทางวิชาการเพื่อยกระดับศักยภาพของบุคคลากรในกลุ่มโรงพยาบาลเครือข่าย อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ระบบสาธารณสุขของประเทศ เพื่อให้ผู้รับบริการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุด เป็นไปตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ มุ่งมั่นที่จะให้การบริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุด ด้วยความเอื้ออาทร และยึดถือหลักคุณธรรม แก่ผู้ป่วยของเราทุกคน อย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย
 
ประสิทธิภาพทั้งการดูแลรักษาและการบริการ

นับเป็นก้าวแรกและก้าวที่สำคัญของเมืองไทย ที่ประกาศความร่วมมือในวงการสาธารณสุข จากโรงพยาบาลชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมในทุกๆ ด้าน โดยในกลุ่มโรงพยาบาลพันธมิตรจะมีกระบวนการในการประสานงานอย่างไร้รอยต่อ ที่มีประสิทธิภาพทั้งการดูแลรักษาและการบริการ ในด้านการดูแลรักษา มีการจัดตั้งทีมประสานงานอันประกอบไปด้วยแพทย์ พยาบาล เพื่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย มีการส่งต่อข้อมูลและวางแผนการรักษาร่วมกัน เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีสภาวะโรคที่ซับซ้อน มีความรุนแรง ได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จนมีอาการคงที่ ปลอดภัย ก็จะมีการส่งกลับไปยังโรงพยาบาลพันธมิตรเพื่อดูแลรักษาต่อเนื่อง ในด้านการบริการจะมีการเตรียมทีมต้อนรับและอำนวยความสะดวกตลอดกระบวนการการดูแลรักษา ภายใต้การนำของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของเมืองไทย เพื่อผลประโยชน์สำคัญที่สุดคือผู้ป่วย ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากความร่วมมือในครั้งนี้
“ผู้ป่วยจะเกิดความมั่นใจในการรักษามากขึ้น อีกทั้งในกลุ่มโรงพยาบาลพันธมิตรจะมีกระบวนการในการประสานงานอย่างไร้รอยต่อ มีประสิทธิภาพทั้งการดูแลรักษาและการบริการ ในด้านการดูแลรักษา มีการจัดตั้งทีมประสานงานอันประกอบไปด้วยแพทย์ พยาบาล เพื่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย มีการส่งต่อข้อมูลและวางแผนการรักษาร่วมกัน เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีสภาวะโรคที่ซับซ้อน มีความรุนแรง ได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จนมีอาการคงที่ ปลอดภัย ก็จะมีการส่งกลับไปยังโรงพยาบาลพันธมิตรเพื่อดูแลรักษาต่อเนื่อง ในด้านการบริการจะมีการเตรียมทีมต้อนรับและอำนวยความสะดวกตลอดกระบวนการการดูแลรักษา” 

ด้าน นพ. ดร. เทอดศักดิ์ โรจน์สุรกิตติ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์อาวุโส โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวเสริมว่า รูปแบบความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นลักษณะที่ 36 โรงพยาบาลที่เป็นพันธมิตรกัน รวมถึงอีก 1 แห่งคือโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ จะทำหน้าที่ล้อมรอบ โดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะทำให้การส่งต่อเพื่อทำการรักษามีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
“จากเดิมที่ดูเหมือนว่าโรงพยาบาลแต่ละแห่งก็ทำหน้าที่ของตนไป หรือเป็นลักษณะ Stand Alone แต่นับจากนี้จะเป็นการร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ของผู้ป่วยในระดับที่สูงขึ้น ผู้ป่วยจะรับทราบว่าเมื่อถูกส่งต่อต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันแพทย์ก็จะได้ข้อมูลว่ามีการรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว และปรึกษากันว่าต้องใช้เทคโนโลยีอย่างไร รวมถึงมีการจัดกิจกรรมด้านวิชาการร่วมกันระหว่างเครือข่ายพันธมิตรด้วย” นพ. ดร. เทอดศักดิ์ กล่าว

นพ. ดร. เทอดศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในอนาคตโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีแผนจะขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมมากกว่าเดิม จากที่มีอยู่แล้วกว่า 36 โรงพยาบาลที่เป็นพันธมิตรกัน เพราะด้วยศักยภาพของโรงพยาบาลในเมืองไทย ที่มีความพร้อมมาร่วมมือกันอีกมากกว่า 100 แห่ง และผลของการร่วมมือจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ ที่เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมกันอีกด้วย ด้วยการผนึกกำลังเพื่อชัยชนะของทุกฝ่ายในครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำปณิธานร่วมกันในการให้การบริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุด ด้วยความเอื้ออาทร และยึดถือหลักคุณธรรม แก่ผู้ป่วยของเราทุกคน

ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดของโครงการดังกล่าว จะเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลและประสานการทำงานร่วมกันในรอบด้านตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงระดับใหญ เช่น เริ่มจากประสานข้อมูลทางการแพทย์ การรักษาผู้ป่วยระหว่างกัน การส่งต่อผู้ป่วยเพื่อรักษาต่อตามเครือข่ายพันธมิตร จนถึงการจัดงานวิชาการที่ให้ความรู้ด้านการแพทย์ของบุคลากร โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการส่งต่อผู้ป่วยที่เป็นหัวใจสำคัญของโครงการความร่วมมือครั้งนี้

สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ คือ 1. มีการให้ข้อมูลทางการแพทย์ที่ถูกต้องครบถ้วน เพื่อทาง รพ. บำรุงราษฎร์จะได้วางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ จะเกิดการพูดคุยกันมากขึ้นระหว่างแพทย์ที่ทำการรักษา เพื่อให้ครอบคลุมในทุกระดับ เมื่อแพทย์ได้คุยเกี่ยวกับข้อมูลการรักษาระหว่างกัน ก็จะทำให้ผู้ป่วยเกิดความมั่นใจ เพราะระหว่างแพทย์ที่จะทำการรักษาได้พูดคุยกันแล้วถึงแนวทางการรักษา สิ่งใดที่แพทย์ประจำรักษาอยู่ได้ส่งต่อข้อมูลไปทั้งหมดแล้ว และทำให้ผู้ป่วยรับรู้ระบบขั้นตอนการรักษา พร้อมทั้งคำแนะนำก่อนที่จะพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ แต่ท้ายที่สุดคือผู้ป่วยจะไม่ต้องกังวลเพราะอาการป่วยมีทางรักษา เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการสื่อสารสองทาง และเพิ่มข้อมูลมากขึ้นกว่าเดิม

2. การจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือประสานงานอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้การดำเนินงานร่วมกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ จะมีการจัดตั้งทีมประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวก อันประกอบไปด้วยแพทย์และพยาบาล ให้เกิดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย มีการส่งต่อข้อมูลและวางแผนการรักษาร่วมกัน เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีสภาวะโรคที่ซับซ้อน มีความรุนแรง ได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จนมีอาการคงที่ ปลอดภัยก่อนที่จะมีการส่งกลับไปยังโรงพยาบาลพันธมิตรเพื่อดูแลรักษาต่อเนื่องจากการพูดคุยทำให้ทราบว่าต้องเตรียมเครื่องมืออะไรบ้างในการบริการ อย่างไรก็ตาม หากเป็นกรณีผู้ป่วยนอกที่ถูกส่งต่อ เราจะทำนัดให้เรียบร้อยว่าจะต้องมาวันไหน เวลาใดและไปพบกับแผนกใด และแพทย์ท่านใดเพื่อทำการรักษา รวมถึงลงทะเบียนผู้ป่วยไว้ให้ก่อน ซึ่งจะเป็นระบบที่สร้างข้อมูลให้กับผู้ป่วย ทำให้ไม่ต้องกังวลเมื่อมารักษาต่อทีโรงพยาบาลแห่งใหม่ และสร้างความคุ้นชินกับสถานที่ คือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

และ 3. เมื่อกระบวนการรักษาเสร็จสิ้น ผู้ป่วยมีอาการคงที่ ปลอดภัยแล้ว ก็จะส่งผู้ป่วยกลับไปยังโรงพยาบาลพันธมิตรเพื่อดูแลรักษาต่อ ซึ่งในด้านการบริการจะมีการเตรียมทีมต้อนรับและอำนวยความสะดวกตลอดกระบวนการการดูแลรักษา มีการพูดคุยเกี่ยวกับข้อมูลของผู้ป่วยระหว่างแพทย์เหมือนเช่นเดิม ทั้งการทำนัดไปยังโรงพยาบาลต้นทาง แนวทางการรักษาฟื้นฟูผู้ป่วยต่อไป ซึ่งก็จะเป็นการทำงานระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยจะกลับไปพร้อมกับทราบข้อมูลว่าต้องทำอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวถือเป็นนโยบายของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่ต้องการแสวงหาความร่วมมือจากโรงพยาบาลในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อลงนามเป็นพันธมิตรระหว่างกันด้วยรูปแบบการสร้างเครือข่ายทีสำคัญในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งประโยชน์ที่แต่ละโรงพยาบาลจะได้รับ จะเป็นไปในลักษณะความร่วมมือที่เป็นระบบ มีทีมเฉพาะกิจถูกตั้งขึ้นมาในแต่ละโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 36 ทีม เพื่อคอยประสานข้อมูล ทั้งการส่งต่อผู้ป่วย และให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วย เป็นต้น ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน
โดยการพัฒนากลุ่มโรงพยาบาลพันธมิตรครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการบริการทางการแพทย์ในประเทศไทย เป็นการผนึกกำลังเพื่อชัยชนะของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง โดยผู้รับบริการจะสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุด ทางด้านกลุ่มโรงพยาบาลพันธมิตรเองก็จะสามารถยกระดับคุณภาพการรักษาและสร้างความเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนร่วมกัน
 
 
    Scroll for more