การเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง
- ขั้นตอนการเก็บปัสสาวะ
ในกรณีที่กระป๋องเก็บปัสสาวะใส่สารรักษาสภาพ กรุณาแจ้งผู้ป่วยว่าในภาชนะมีสารเคมีบรรจุอยู่ ให้ระมัดระวังในการเก็บ เพราะสารเคมีมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง
- ให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะครั้งแรกในตอนเช้าทิ้งไปก่อน แล้วบันทึกเวลาที่ถ่ายปัสสาวะทิ้งไป โดยถือเป็นเวลาที่เริ่มเก็บปัสสาวะ หรือ หากไม่สามารถเริ่มในตอนเช้าได้ จะเริ่มเวลาใดก็ได้ สิ่งสำคัญคือ ปัสสาวะครั้งแรกทิ้งไปก่อนเสมอ และจดบันทึกเวลาไว้ ถือว่าเป็นเวลาเริ่มต้นของการเก็บปัสสาวะ
- ทุกครั้งที่มีการเก็บปัสสาวะ ในภาชนะอื่นที่สะอาดมารองรับก่อน แล้วจึงเทปัสสาวะทั้งหมดลงในกระป๋องเก็บปัสสาวะที่เตรียมไว้
**ห้ามปัสสาวะกับภาชนะโดยตรงโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดอันตรายอย่างเฉียบพลันต่อผิวหนังได้**
- ปัสสาวะที่เก็บได้ทั้งหมด (ทุกหยด ทุกซีซี) ในแต่ละครั้งให้แช่ตู้เย็น (2-8 °C) หรือเก็บกระป๋องปัสสาวะในกล่องโฟม/พลาสติกที่แช่น้ำแข็งไว้ตลอดเวลา เพื่อรักษาคุณภาพของปัสสาวะจนกระทั่งนำส่งที่ห้องปฏิบัติการของทางโรงพยาบาล
4. ให้ผู้ป่วยเก็บปัสสาวะครั้งสุดท้ายในวันถัดไป เป็นเวลาเดียวกันกับเวลาที่ถ่ายปัสสาวะทิ้งในวันแรก (เวลาเดียวกับเวลา
ที่เริ่มเก็บปัสสาวะ) เช่น ปัสสาวะทิ้งเวลา 8.00 น. ก็ให้เก็บปัสสาวะครั้งสุดท้ายเวลา 8.00 น. ของวันถัดไป คือครบ
24 ชั่วโมง** ปัสสาวะที่เก็บในเวลาสุดท้ายนี้ ต้องเก็บลงกระป๋อง ห้ามเททิ้ง**
5. นำส่งปัสสาวะ 24 ชั่วโมง ที่เก็บครบแล้ว ให้กับห้องปฏิบัติการของทางโรงพยาบาลซึ่งไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง
6. หากมีการสั่งตรวจในกลุ่มที่ต้องใส่ 25% HCl ร่วมกับกลุ่ม Non-Preservative จะต้องแยกเก็บปัสสาวะทีละครั้ง
หมายเหตุ
- ระหว่างการเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมงสามารถปฏิบัติตัวตามปกติ ไม่ต้องงดอาหารหรือยาที่รับประทานประจำ ยกเว้นมีคำสั่งแพทย์ และควรมีเวลาอยู่ที่บ้านทั้งวัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการเก็บปัสสาวะไม่ครบ
- กรุณาถ่ายปัสสาวะเก็บใส่ในภาชนะทุกครั้ง ก่อน ถ่ายอุจจาระ หรืออาบน้ำเพื่อป้องกันการปนเปื้อน หรือการเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมงไม่ครบ
- ควรทำความสะอาดภาชนะที่ใช้รองรับปัสสาวะและผึ่งให้แห้งทุกครั้งก่อนนำมารองรับปัสสาวะในครั้งถัดไป
- กรณีมีประจำเดือน ต้องเลื่อนการเก็บปัสสาวะไปจนกว่าประจำเดือนหมด
2. ข้อควรระวังสำหรับการเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมงแบบมีสารรักษาสภาพ (สารเคมี)
ห้ามสูดดมน้ำยาที่อยู่ในภาชนะเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง เด็ดขาด
2.1 อันตรายของผลิตภัณฑ์กรณีสัมผัสทางผิวหนัง
อาการ: ระคายเคือง บวม แดง หรือผิวหนังไหม้บริเวณที่สัมผัสสาร
การป้องกัน: ควรมีภาชนะสะอาดรองรับปัสสาวะก่อนที่จะเทปัสสาวะลงไปในภาชนะที่ใช้เก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง
ห้ามปัสสาวะกับภาชนะโดยตรงโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดอันตรายอย่างเฉียบพลันได้
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น: รีบล้างออกด้วยน้ำให้เร็วที่สุด โดยเปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่านผิวหนังประมาณ 15 นาที
หลังจากนั้นนำผ้าชุบน้ำเย็นมาวางไว้ตรงบริเวณแผลเพื่อลดอาการปวดแสบร้อน ทา
ด้วยสารให้ความชุ่มชื้น และไปพบแพทย์ทันที
2.2 อันตรายของผลิตภัณฑ์กรณีมีการสูดดม (ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ)
อาการ: ก่อให้เกิดการไหม้ หรือแสบร้อน ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
การป้องกัน: ห้ามสูดดมน้ำยาที่อยู่ในภาชนะเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง