bih.button.backtotop.text

“รพ.บำรุงราษฎร์” ชูยุทธศาสตร์รับมือโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่ เปิด 5 หัวใจระบบบริหารบุคลากร เพื่อมุ่งสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด

06 สิงหาคม 2558

ผู้บริหารโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านให้คณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมมาตรการกักกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่แบบครบวงจร ทุ่มเทศึกษาวิจัยโรคเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์และเฝ้าระวังล่วงหน้า เพื่อมุ่งสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด

รพ.บำรุงราษฎร์ ชูยุทธศาสตร์รับมือโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่

          ผศ.นพ.ก่อพงศ์รุกขพันธ์ผู้อำนวยการด้านปฎิบัติการและผู้อำนวยการด้านคุณภาพโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เผยว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาได้เกิดการระบาดของโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่ขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่องทั้งโรคติดเชื้อชนิดใหม่ที่เพิ่งระบาดในมนุษย์ หรือโรคติดเชื้อที่พบในพื้นที่ใหม่ แม้กระทั่งเกิดจากเชื้อโรคที่กลายพันธุ์ สำหรับประเทศไทยนั้นพบโรคติดต่ออยู่เป็นระยะๆ อาทิ โรคซาร์ส โรคไข้หวัดใหญ่H1N1 และล่าสุดโรคเมอร์ส ซึ่งทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้ตรวจพบคนไข้รายแรก และดำเนินการระงับการแพร่กระจายของโรคได้สำเร็จดังที่ได้ทราบกันไปแล้ว

 
          ทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตระหนักดีว่า ความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เราจึงจัดเตรียมยุทธศาสตร์ทุกมิติเพื่อเตรียมพร้อมรับมือป้องกัน และแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่ขึ้นในประเทศไทยอย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลฯมีแผนกที่พร้อมที่จะรับมือหากมีโรคติดเชื้อชนิดใหม่เข้ามานั่นคือแผนกควบคุมโรคติดเชื้ออย่างกรณีโรคเมอร์สที่เราได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือไว้ล่วงหน้าตั้งแต่พบโรคดังกล่าวครั้งแรกในประเทศแถบตะวันออกกลางเมื่อเดือนเมษายนปี 2555 และมีการจัดประชุมคณะแพทย์อย่างสม่ำเสมอพร้อมเตรียมห้องปฏิบัติการกรณีตรวจพบผู้ป่วยในไทยจนผ่านมานานถึง 3 ปีได้พบผู้ป่วยเมอร์สรายแรกในประเทศไทยซึ่งแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เราคิดและดำเนินการมาตั้งแต่ต้นนั้นเป็นแนวทางที่ถูกต้องเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่สามารถช่วยให้ประเทศไทยป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
 
          ผศ.นพ.ก่อพงศ์รุกขพันธ์ กล่าวอีกว่าช่วงที่พบผู้ป่วยโรคเมอร์สรายแรกในไทยสิ่งที่เป็นหัวใจหลักในการจัดการปัญหาในเวลานั้นคือเราต้องมองถึงระบบบริหารจัดการบุคลากรและการจัดการองค์ความรู้แบ่งเป็น 5 ส่วนหลักได้แก่ 1.ความเป็นมืออาชีพและความเข้าใจในหน้าที่ความรับผิดชอบ  2.ความมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานสูงสุด 3.การเตรียมความพร้อมรับมือและฝึกฝนอยู่เสมอ  4.จิตวิญญาณแห่งวิชาชีพและเชื่อมั่นในการทำงานร่วมกัน  5.การปรับตัวและเรียนรู้ตลอดเวลาซึ่งจาก 5 ปัจจัยข้างต้นทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว
 
ยกตัวอย่างเช่นทันทีที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพบว่ามีผู้ต้องสงสัยป่วยเป็นโรคเมอร์สเรายืนยันที่จะขอกักตัวผู้ป่วยเพื่อเฝ้าระวังและสังเกตอาการที่โรงพยาบาลจากนั้นทีมทุกฝ่ายได้ระดมกำลังเพื่อกักกันการแพร่ระบาดของโรคโดยเร็วถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นจะส่งผลให้มีผู้เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลลดลงในระยะหนึ่งแต่ความภาคภูมิใจของเราคือทำให้โรคเมอร์สไม่แพร่ระบาดในประเทศไทยและคืนความเชื่อมั่นที่มีต่อโรงพยาบาลฯกลับมาในระยะเวลาอันสั้นและนี้เป็นตัวอย่างของบุคลากรที่เป็นมืออาชีพทำงานร่วมกันเป็นทีมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ผศ.นพ.ก่อพงศ์ กล่าว
 
          พร้อมกันนี้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เยี่ยมชมส่วนงานต่างๆ ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องในการยับยั้งการแพร่กระจายของโรค อาทิ แผนกฉุกเฉิน (ER) ที่มีการเตรียมความพร้อมรับผู้ป่วยติดเชื้อ รวมถึงการจัดเตรียมชุดและอุปกรณ์ที่สวมใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรคในขณะปฏิบัติการ ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในแผนกดังกล่าวเป็นสำคัญ แผนกเวชภัณฑ์ปลอดเชื้อ ที่แสดงถึงขั้นตอนการฆ่าเชื้อ และทำความสะอาดเครื่องมือด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด แผนกผู้ป่วยหนัก (ICU) นำเสนอมาตรฐานห้องผู้ป่วยที่มีการควบคุมอุณหภูมิและระบบการระบายอากาศที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อผู้ป่วยและบุคคลอื่นภายในโรงพยาบาล แผนกรับผู้ป่วยใน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ผ่านการฝึกอบรมในการถ่ายทอดความรู้เรื่องการป้องกันโรคติดเชื้อรวมถึงคลายความกังวลแก่ญาติเป็นด่านแรก นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งหน่วยลาดตระเวน ซึ่งเป็นหน่วยเฉพาะที่ทำหน้าที่สอดส่องดูแลผู้มาใช้บริการโรงพยาบาล หากพบเห็นผู้ใดที่มีอาการเข้าข่ายต้องเฝ้าระวังจะมอบหน้ากากอนามัยให้สวมใส่เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคสู่ผู้อื่น และรายงานให้เจ้าหน้าที่ทันทีถ้ามีอาการที่รุนแรง นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลฯ ยังได้มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์แสดงถึงอาการต่างๆที่บ่งชี้ว่าอาจจะเป็นโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่และแสดงรูปประเทศต่างๆที่มีโรคระบาดอยู่ในหลายๆจุดสำคัญทั่วโรงพยาบาลฯอีกด้วย
 
          ทั้งนี้ แผนกวิจัยและเฝ้าระวังโรคติดเชื้อยังคงทุ่มเทศึกษาเกี่ยวกับโรคสายพันธุ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์และเฝ้าระวังล่วงหน้า ทำให้พร้อมรับมือโดยทันทีเมื่อมีการตรวจพบโรคระบาด ปัจจุบันเรามีผู้ใช้บริการจำนวน 1.1 ล้านคนต่อปี (รวมผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก) เป็นผู้ใช้บริการชาวต่างประเทศกว่า 520,000 คนต่อปี จาก 190 ประเทศทั่วโลก โดยเราเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) อย่างครบวงจร ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ และทันตแพทย์กว่า 1,300 ท่าน มีพนักงานคอยให้บริการกว่า 4,800 คน และมีพยาบาลอีกกว่า 900 คน
 
เป็นเวลา 35 ปีบนมาตรฐานความสำเร็จของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ภายใต้ระบบบริหารจัดการบุคลากรและการจัดการองค์ความรู้ล้วนพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมทุกด้านโดยเฉพาะมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและโรคสายพันธุ์ใหม่ในอนาคตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานความปลอดภัยซึ่งที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่างๆในฐานะโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทยจวบจนทุกวันนี้ ผศ.นพ.ก่อพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย 
 
มาตรฐานความสำเร็จของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

เปิด 5 หัวใจระบบบริหารบุคลากร เพื่อมุ่งสู่มาตรฐาน

 

    Scroll for more